ความเป็นอยู่ของราษฎรในสังคม
ทรงปรับปรุงความเป็นอยู่ของราษฎรให้ดีขึ้น ทรงสนพระทัยในวิถีชีวิตของราษฎร พระองค์ได้เสด็จประพาสตลาด และทรงทราบว่าชาวบ้านที่นำของเล็กๆ น้อย ๆ มาขายที่ตลาดเดือดร้อนเรื่องกำนันตลาดเก็บอากรตลาดมากเกินกำหนดทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เลิก เปลี่ยนเป็นเก็บภาษีโรงร้านเรือนแพจากพ่อค้าแม่ค้ารายใหญ่แทน ตามรายละเอียดดังที่ประกาศในประชุมประกาศรัชกาลที่ 4 เล่ม 2 136 (กระทรวงศึกษาธิการ 2527 : 88) ความว่า
“... วันหนึ่งเวลาบ่ายเสด็จทรงม้าพระที่นั่งประพาสลงไปถึงที่ตลาดประตูท่าพา ทอดพระเนตรเห็นตลาดออกขายของอยู่ มีพระบรมราชโองการดำรัสถามชาวบ้านที่ขายของเล็กน้อยอยู่ในที่นั้น ว่าเสียค่าตลาดอยู่เท่าใด เสียเป็นรายเดือนหรือรายวัน ชาวตลาด กราบทูลว่าเสียวันละสองร้อยเบี้ย จึงทรงระลึกตรวจดูตามพิกัดในท้องตราตั้งกำนันตลาด ก็ได้ความว่าแผงลอยเช่นนี้ ควรจะเสียแค่เพียงร้อยเบี้ยกำนัน ตลาดเก็บเกินพิกัดเป็นสองเท่า หากำไรมากเกินอยู่ จึงทรงพระบรมราชโองการดำรัสประกาศแก่ชาวตลาดในที่นั้นว่า จะใคร่ทรงพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เลิกอากรตลาดเสียทั้งสิ้น... ”
ทรงสนพระราชหฤทัยเรื่องบ้านช่องของชาวบ้านชาวเมือง ทรงออกประกาศตักเตือนเรื่องการก่อเตาไฟ เพื่อป้องกันไฟไหม้บ้าน และให้คิดทำลิ่ม สลักกด เพื่อป้องกันโจรผู้ร้าย ดังประชุมประกาศรัชกาลที่ 4 ภาค 3 83 (หอพระสมุดวชิรญาณ 2466 : 49-50) ความว่า
“... ตั้งแต่นี้สืบไปให้คนที่เป็นผู้ใหญ่ในบ้านเรือนของตน ๆ ทอดเตาเพลิงเสียใหม่ เอาใจใส่ตรวจตราดูแลระวังในที่อย่าให้ทอดเตา ก่อเตาใกล้ขยะที่รุงรัง ให้ทอดก่อเตาเพลิงใหม่ที่ไม่เป็นเชื้อเพลิง คือ ทำด้วยอิฐด้วยปูน หรือดินเหมือนอย่างเตาที่ก่อไว้เป็นตัวอย่างที่ท้องสนามหลวงริมโรงคู่ต้นทางใหญ่นั้น หรือเป็นคนยากจนจะก่อเตานั้นมิได้จะทอดเตาเพลิงอยู่อย่างเก่า ก็ให้เอาดินโคลนกับแกลบกับทรายประสมกันเข้า แล้วบวกฝาทาฝาที่ใกล้เตาเพลิงเสียให้ดี แล้วไว้กองฟืนที่จะหุงข้าวให้ห่าง ๆ เตา อย่าให้เป็นเชื้อเพลิงได้ และให้หมั่นระวังเอาใจใส่ในเรื่องที่จะเกิดเพลิงไหม้ให้มาก อย่าประมาทเลย จะให้กรมพระนครบาลตรวจค้นดูทุกบ้านเรือนในพระนคร ถ้าเรือนใดไม่จัดแจงที่เตาเพลิงด้วยอิฐปูนและดินให้ห่าง ขืนทำรุงรังจะให้ไล่เสียจากที่อยู่ เอาที่ให้คนที่รู้ระวังอยู่ต่อไป
อนึ่ง ทรงพระราชวิตกอยู่ด้วยเรื่องโจรผู้ร้ายมีเนือง ๆ ชำระในโรงศาล ก็มีเรื่องราวว่าผู้ร้ายเอาบันไดพาดขึ้นมาตัดฝาตัดลิ่มสลัก ผลักหน้าต่างลักเอาสิ่งของทองเงินไป เมื่อเกิดความขึ้นที่ใด ๆ ก็ยืนอยู่อย่างเดียว ทรงพระมหากรุณาแก่ราษฎรทั้งปวงจะให้หลีกเลี่ยงให้พ้นโจรภัย จึงได้ทรงสั่งสอนเตือนสติ ให้ทำลิ่มสลักประตูหน้าต่างให้ หนีอย่างที่โจรผู้ร้ายจะรู้ง่าย ให้ทำเปนกระบวนช่างที่คนฉลาดคิดทำอย่างไร ๆ ตามสติปัญญาของคนนั้น ๆ คือว่าจะใส่ลิ่มข้างบนข้างล่างลิ่มขวางฤาอย่างไร ๆ ก็ตามแต่จะเห็นควรให้ยักย้ายจัดแจงเสียบ้าง ให้แน่นหนา อย่าให้โจรผู้ร้ายเข้าไปลักเอาสิ่งของทองเงินไปได้ ง่าย ๆ... ”

หน้า 13 จากทั้งหมด 17 หน้า
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17