1. เรือนแพและเรือนแบบไทยของราษฎรทั่วๆ ไป ลักษณะการจัดวางตำแหน่งอาคาร ถ้าเป็นเรือนแพจะจอดขนานไปกับริมฝั่งคลองตามริมแม่น้ำเจ้าพระยา ถ้าเป็นเรือนไทยมักวางเรือนตามตะวัน วางอาคารให้ถูกต้องตามทิศทางที่จะให้ลมพัดผ่านด้านยาวของเรือน และด้านสกัดของเรือนรับด้านตะวันออกตะวันตก การจัดวางผังยืดหยุ่นตามจำนวนผู้อยู่อาศัย ตามฐานะและความจำเป็น เช่นเรือนหอสำหรับผู้แรกตั้งครอบครัวเป็น เรือน 3 ห้องมีระเบียง และนอกชานประกอบ ต่อมาครอบครัวขยายหรือฐานะดีขึ้น จะเพิ่มจำนวนเรือนเป็นเรือนแฝดหรือเรือนหมู่ขยายออกไป
2. บ้านแบบจีนในกลุ่มชุมชนชาวจีน บ้านแบบจีนแบ่งได้ ประเภทหนึ่งเรือนแถว หรือ ตึกแถวแบบจีนสำหรับลูกจ้างหรือกรรมกรจีน อีกประเภทคือ บ้านพ่อค้า หรือคหบดีจีนที่มีฐานะดี การวางแบบอาคารขึ้นอยู่กับถนนและบริเวณที่ตั้ง การจัดวางตำแหน่งอาคารจะเป็นลักษณะสมดุลชนิดมีแกนกลาง และมีส่วนประกอบ 2 ข้างของแกนกลางเหมือนกัน บ้านแบบจีนประกอบด้วยอาคารสำคัญ 3 หลัง มีตึกใหญ่อยู่กลางเป็นเรือนประธานวางขนานกับแม่น้ำหรือถนน และมีตึกยาวขนาบ 2 ข้าง ตั้งฉากกับแม่น้ำหรือถนน
3. บ้านแบบที่ได้รับอิทธิพลตะวันตก สันนิษฐานว่าบ้านประเภทนี้มักอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นส่วนใหญ่ และหันหน้าออกด้านแม่น้ำ เป็นบ้านตึกก่ออิฐก่อปูน 2 ชั้น ที่มีเนื้อที่กว้างขวาง มีสนามหญ้าอยู่ทางด้านหน้าหรือด้านข้างของบ้าน มีพุ่มไม้เล็กปลูกเรียงไปรอบๆ สนาม หรือมีกระถางต้นไม้ขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนฐานยกสูง ลักษณะการจัดวางผังบ้านที่มีสนามหญ้า ประกอบเป็นอิทธิพลจากพวกหมอสอนศาสนาชาวต่างประเทศที่นำเข้ามาใช้ในเมืองไทย เป็นยุคแรก
พระราโชบาย ในรัชกาลที่ 4 เกี่ยวกับสถาปัตยกรรมเขมร
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชประสงค์ จะให้รื้อปราสาทเขมร ขนาดเล็กมาก่อสร้างเขามหาสวรรค์ และวัดปทุมวันปราสาท จึงโปรดให้พระสุวรรณพิศาลและขุนชาติวิชา ไปเมืองหลวงพระนครธม พระนครวัต พระสุวรรณพิศาลและขุนชาติวิชา กลับมากราบทูลให้ทรงทราบว่า มีแต่ปราสาทใหญ่ ๆ จะรื้อเอาเข้ามาเห็นจะไม่ได้ มีเฉพาะปราสาทผไทตาพรหม ที่เมืองนครเสียมราฐ สองปราสาท สูง 6 วา พอจะรื้อถอนได้ พระองค์จึงโปรดเกล้า ฯ ให้มีตราออกไปเกณฑ์คนเมืองบัตบอง เมืองนครเสียมราฐ เมืองพนมศก ไปรื้อปราสาท แต่พระราชดำริไม่สามารถลุล่วงตามพระราชประสงค์ ด้วยเกิดเหตุชาวเขมรเข้าต่อต้าน ฆ่าพระสุวรรณพิศาลและขุนนาง พร้อมทั้งเสนาบดี เข้าชื่อกันทำเรื่องราวถวายว่า |