3. พระอารามที่ทรงปฏิสังขรณ์
1. วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระมณฑปเดิมที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช นั้น เมื่อมาถึง รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 โปรดให้ถมที่ต่อชั้นประทักษิณ ฐานพระมณฑปออกไปทั้งด้านตะวันออกและตะวันตก มีพนักศิลาล้อม สร้างซุ้มประตู ประดับกระเบื้อง ทำบันไดเพิ่มอีก 6 แห่ง ทางด้านตะวันออก สร้างปราสาทยอดปรางค์ขึ้นองค์หนึ่งประดับกระเบื้อง ทั้งผนังและองค์ปรางค์ พระราชทานนามว่า พระพุทธปรางค์ปราสาท ปราสาทองค์เดิมได้มีพระราชดำริให้เป็นที่ประดิษฐาน พระแก้วมรกต ปรากฏว่าไม่อาจประกอบพระราชพิธี ต่าง ๆ ได้สะดวก จึงโปรดให้เป็นที่ประดิษฐานพระบรมรูปอดีตพระมหากษัตริย์ในพระราชวงศ์จักรี (ปัจจุบันปราสาทพระเทพบิดร) ทางด้านตะวันตกของมณฑป โปรดให้สร้างพระศรีรัตนเจดีย์ตามแบบพระมหาสถูปในวัดพระศรีสรรเพชญที่อยุธยา ทางด้านทิศเหนือเบื้องหลังปราสาทพระเทพบิดร โปรดเกล้า ฯ ให้สร้างนครวัดจำลอง
2. วัดวงศ์มูลวิหาร เดิมชื่อวัดใหม่ โปรดเกล้าฯให้ปฏิสังขรณ์และพระราชทานนาม
3. วัดชิโนรสารามวรวิหาร สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส ทรงถวายวัดเป็นพระอารามหลวง เมื่อสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรสสิ้นพระชนม์ ใน พ.ศ. 2396 อีก 4 ปีต่อมา พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์พระอารามและก่อสร้างตกแต่งพระเจดีย์ขนาดใหญ่ 2 องค์ และพระอุโบสถ แล้วโปรดให้ช่างปั้นหรือเขียนรูปนาคไว้ทั่วไป เพื่อเป็นเครื่องหมายแห่งพระนามเดิมของสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส และโปรดให้ปั้นรูปพระมหามงกุฎลงรักปิดทองไว้เหนือเรือนแก้วหลังพระประธานในพระอุโบสถ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าพระองค์ได้ทรงบูรณะปฏิสังขรณ์วัดนี้ แล้วพระราชทานนามว่า วัดชิโนรสาราม
4. วัดกาญจนสิงหาสน์วรวิหาร เดิมชื่อวัดทองเป็นวัดโบราณ พ.ศ. 2397 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามวัดเสียใหม่ว่า วัดกาญจนสิงหาสน์ พ.ศ. 2406 โปรดเกล้าฯ ให้บูรณะพระประธานและฐานชุกช
ี
5. วัดบวรมงคลราชวรวิหาร เดิมชื่อวัดลิงขบเป็นวัดที่มีชื่อเสียงในด้านการศึกษาพระปริยัติธรรม เป็นวัดมอญมาจน พ.ศ. 2462 จึงกลายเป็นวัดธรรมยุต และมีพระสงฆ์ไทยมาจำพรรษา |