พระองค์โปรดเกล้าฯ ให้มีการผลิตเงินเหรียญแทนเงินพดด้วง ความต้องการเงินตราไทย มีมากขึ้นอย่างรวดเร็ว การผลิตเงินพดด้วงไม่ทันใช้ และถึงกับต้องใช้เงินเหรียญต่างประเทศออกจ่ายเป็นเบี้ยหวัดเงินเดือนข้าราชการอยู่ระยะหนึ่ง ใน พ.ศ. 2400 จึงทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้งโรงงานผลิตเงินเหรียญขึ้นแทนเงินพดด้วง โดยมีพระราชหัตถเลขาลงวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2400 ถึงคณะราชทูตไทยซึ่งกำลังไปเจริญพระราชไมตรีอยู่ในประเทศอังกฤษ ให้จัดซื้อเครื่องจักรผลิตเหรียญกษาปณ์ชนิดที่ผลิตได้ทั้งเหรียญเงิน และเหรียญทองคำส่งเข้ามายังประเทศไทย
เครื่องจักรผลิตเหรียญกษาปณ์เครื่องแรก สมเด็จพระนางเจ้าวิกตอเรีย พระเจ้าแผ่นดินอังกฤษส่งมาถวายเป็นบรรณาการ เป็นเครื่องเล็กผลิตได้ช้า ใช้ผลิตใน พ.ศ. 2400 ถึง 2401 ก็เลิก ใช้เครื่องจักรที่สั่งซื้อมาจากประเทศอังกฤษมีขนาดใหญ่และสามารถผลิตได้เร็วกว่า

ครั้นถึง พ.ศ. 2403 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างโรงงานและติดตั้งเครื่องจักรที่บริเวณประตูพรหมโสภา หน้าพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทในพระบรมมหาราชวังแล้วเสร็จ พระราชทานนามว่า “โรงกระษาปน์สิทธิการ” เพื่อผลิตเงินเหรียญแบบสากลนิยม โดยใช้เครื่องจักรทำการแทนแรงคน เริ่มผลิตตั้งแต่ พ.ศ.2403 เงินเหรียญที่ผลิตขึ้นใช้ในระยะแรกเรียกว่า “เงินแป” หรือ “เงินแบน” เพราะมีรูปลักษณะแบนกลมเหมือนเหรียญต่างประเทศทั่วไป ตราของเงินเหรียญใช้รูปจักรมีช้างยืนบนแท่นอยู่กลางเป็นตราประจำแผ่นดิน จักรมี 9 กลีบ รอบจักรมีดอกจัน 8 ดอก ในขนาดหนึ่งบาท 4 ดอก ในขนาดกึ่งบาท 2 ดอก ในขนาดสลึง และหนึ่งดอกในขนาดเฟื้อง ส่วนตราประจำรัชกาล มีรูปร่างเป็นพระมหามงกุฎยอดมีรัศมี มีฉัตร 5 ชั้น กระหนาบสองข้าง พื้นเป็นเปลวกนกมีดอกจันล้อมรอบจำนวนเท่าด้านตราจักร
เหรียญพระแสงจักร-พระมหามงกุฏ
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้ผลิตเหรียญพระแสงจักร-พระมหามงกุฎชนิดราคา 1 บาทขึ้นใช้เป็นครั้งแรกในพ.ศ.2401 (ภาพจากหนังสือเบี้ย บาท กษาปณ์ แบงก์ หน้า 73)

หน้า 7 จากทั้งหมด 19 หน้า
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19