พ.ศ. 2401 สร้างเรือศรีอยุธยาเดช มีจักรท้าย ยาว 120 ฟุต กว้าง 27 ฟุต มีปืน 9 กระบอก
พ.ศ. 2401 สร้างเรือมหาพิไชยเทพ มีจักรท้าย ยาว 120 ฟุต กว้าง 18 ฟุต มีปืน 7 กระบอก
พ.ศ. 2402 สร้างเรือราญรุกไพรี มีจักรท้าย ยาว 180 ฟุต กว้าง 29 ฟุต มีปืน 9 กระบอก
พ.ศ. 2404 สร้างเรือสงครามครรชิต มีจักรท้าย ยาว 100 ฟุต กว้าง 21 ฟุต มีปืน 2 กระบอก
พ.ศ. 2404 สร้างเรือศักดิ์สิทธาวุธ มีจักรท้าย ยาว 100 ฟุต กว้าง 22 ฟุต มีปืน 2 กระบอก
พ.ศ. 2406 สร้างเรือยงยศอโยชฌยา มีจักรท้าย ยาว 140 ฟุต กว้าง 29 ฟุต มีปืน 2 กระบอก แต่ ลำนี้สร้างให้เป็นเรือรบของวังหน้า
พ.ศ. 2410 เจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ได้ต่อ เรือรบขึ้นอีกลำหนึ่งใหญ่กว่าบรรดาเรือรบที่ได้ต่อมาแล้ว จึงโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อว่า “สยามูประสดัมภ์”
เมื่อการสร้างกำลังทางเรือเป็นเรื่องสำคัญ จึงโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นวิษณุนารถนิภาธร พร้อมด้วยเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ เสด็จไป ทอดพระเนตรกิจการต่างประเทศที่เมืองสิงคโปร์และปีนัง เพื่อศึกษาการปกครอง ท่าจอดเรือ อู่ต่อและซ่อมเรือรบ เรือ สินค้าและกิจการอื่น ๆ เพื่อปรับปรุงกองทัพเรือไทยให้ทันสมัย
ในราชการวังหลวง เมื่อเรือกลไฟเพิ่มจำนวนมากขึ้น จึงโปรดเกล้าฯ ให้ตั้ง “กรมเรือกลไฟ” ขึ้นในกรมทหารเรือของวังหลวงมีพระยาอรสุมพลภิบาลเป็นเจ้ากรม ส่วนกองเรือวังหน้าขึ้นต่อพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวเหมือนเดิม (รอง ศยามานนท์ 2525 : 534)
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับพระราชโอรสในฉลองพระองค์อย่างทหารตะวันตก จากซ้ายไปขวา เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ เจ้าฟ้าจาตุรนต์รัศมี พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์เจ้าอุณากรรณอนันตนรชัย พระองค์เจ้าคัคณางคยุคล



หน้า 11 จากทั้งหมด 13 หน้า
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13