แม้พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงแสดงออกถึงความสัมพันธ์อันดีทางการทูตกับชาติมหาอำนาจตะวันตก แต่พระองค์มิได้ทรงมีความไว้วางพระราชหฤทัยในความเป็นมิตรของประเทศเหล่านี้ หลังจากที่ทรงเห็นว่า ฝรั่งเศสพยายามใช้อิทธิพลช่วงชิงเขมรไปจากไทย โดยอ้างว่าฝรั่งเศสเป็นผู้สืบสิทธิญวนเหนือเขมร เขมรเคยเป็นประเทศราชของญวน ความไม่ไว้วางพระราชหฤทัยในต่างชาติ ทรงแสดงออกได้ชัด เมื่อ พ.ศ. 2401 จากหลักฐานคำประกาศเทพยดาและพระเจ้าแผ่นดินกรุงเก่ามารับพลีกรรม (พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสมมตอมรพันธ์ ม.ป.ป. : 43-46 อ้างถึงใน นฤมล ธีรวัฒน์ 2525 : 285) ความว่า
... ชาติใดน้ำใจพาลคิดการหาเหตุจะกระทำย่ำยีบ้านเมืองเขตรแดนสยามประเทศนี้ ขอพระบารมีพระเจ้าแผ่นดินทั้งปวงช่วยปกครองป้องกันซึ่งอันตราย ทั้งทวยเทพเจ้าทั้งหลายซึ่งเคยบริรักษ์พระมหานคร จงช่วยกำจัดหมู่ดัสกรให้อันตรธาน ถ้าคนนอกประเทศที่ทำปากหวาน แต่ใจคิดการจะ เหยียบย่ำข่มขี่พาโลโสคลุมคุมโทษ ทำให้ร่อยหรอประการใดๆ ก็ดี ขอให้ความประสงค์ของพวกคนที่เป็นศัตรูในใจที่นั้น กลับไปเปนโทษแก่พวกนั้นเองอย่าให้สมประสงค์...
พระราชกรณียกิจที่ทรงใช้เป็นเครื่องมือกระทำการให้เป็นผลสำเร็จ ในด้านนโยบายต่างประเทศ ก็คือ
1. ทรงเผยแพร่พระเกียรติคุณของพระองค์ให้ชาวต่างประเทศรู้ว่าพระองค์ก็มีความสามารถ เพราะครั้งใดที่มีการเปลี่ยนแปลงประเพณีบางประการในพระราชสำนักให้เหมือนฝรั่ง เช่น ให้ข้าราชการใส่เสื้อเวลาเข้าเฝ้า โดยโปรดเกล้าฯ ให้ทูตานุทูตต่างประเทศเข้าร่วมในพระราชพิธีเป็นบางครั้งบางคราวเหล่านี้ย่อมแพร่หลายไปถึงต่างประเทศด้วย นับว่าเข้าหลักการประชาสัมพันธ์
2. มีพระปรีชาสามารถรู้จักผ่อนหนักผ่อนเบาในฐานะสยามเป็นประเทศเล็ก คือใช้พระสติปัญญามองการณ์ไกลเป็นที่ตั้ง เป็นผลให้ประสบความสำเร็จทางการทูต
3. กำลังด้านการทหาร แม้ว่ามีไม่มากนักแต่ก็สมสมัย ดังเช่นมีการต่อเรือแบบฝรั่ง และมีการหัดทหารอย่างยุโรปในวังหน้า
4. การแต่งคณะราชทูตไปเจริญพระราชไมตรีกับประเทศทางทวีปยุโรป |