“ฉันจะขอพูดด้วยการแผ่นดิน ยังหาได้สมาทานศีล 5 ประการไม่ ฉันเป็นคนป่วยไข้ จะขอสมาทานศีล 5 ประการเสียก่อน แล้วจึงจะพูดด้วยการแผ่นดิน” จึงทรงตั้งนโม 3 จบ ทรงสมาทานศีล 5 และตรัสภาษาอังกฤษ การตรัสภาษาอังกฤษเพื่อแสดงให้เห็นว่าพระสติยังดีอยู่ไม่ฟั่นเฟือน

“ตัวท่านกับฉันได้ช่วยกันทำนุบำรุงแผ่นดินมา ได้อยู่เย็นเป็นสุขตลอดมาจนสิ้นตัวฉัน ถ้าสิ้นตัวฉันแล้ว ขอท่านทั้งหลายจงช่วยกันทำนุบำรุงการแผ่นดินต่อไปให้เรียบร้อย สมณพราหมณ์อาณาประชาราษฎรจะได้ที่พึ่งอยู่เย็นเป็นสุข แต่ต้องรับฎีการ้องทุกข์ของราษฎรให้เหมือนฉันที่เคยรับมาแต่ก่อน

อนึ่งผู้ที่จะเป็นพระเจ้าแผ่นดินต่อไปภายหน้าให้พร้อมกันเลือกหาเอาเถิด จะเป็นพี่ก็ตาม จะเป็นน้องก็ตาม จะเป็นลูกก็ตาม จะเป็นหลานก็ตาม สุดแต่จะเห็นพร้อมกัน ท่านพระองค์ใดมีปรีชาญาณควรจะรักษาแผ่นดินได้ ก็ยกขึ้นเป็นเจ้า จะได้ทำนุบำรุงแผ่นดินและพระราชวงศานุวงศ์และราษฎรให้อยู่เย็นเป็นสุขต่อไป อย่าหันเหียนตามพระกระแสพระเจ้าแผ่นดินก่อนเลย เอาแต่ความดีความเจริญเป็นที่ตั้ง” (สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ 2514 : 171-172)

หลังจากเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ เจ้าพระยาภูทราภัย และพระเจ้าน้องยาเธอกรมหลวงวงศาธิราชสนิท เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวแล้ว คณะผู้เข้าเฝ้าได้กลับออกมาพักอยู่ในท้องพระโรงเพื่อรอดูว่าพระอาการประชวรจะเป็นเช่นไรต่อไป ไม่มีท่านใดในคณะผู้เข้าเฝ้าคาดคิดเลยว่าพระเจ้าอยู่หัวใกล้จะเสด็จสวรรคตอยู่แล้ว เพราะขณะที่มีพระราชกระแสรับสั่งนั้นพระสุรเสียงยังชัดเจนแจ่มใส พระสติสัมปชัญญะก็สมบูรณ์ดี เจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์เองถึงกล้าลงเรือกลับไปพักผ่อนเพื่อบรรเทาความอ่อนเพลียที่บ้านท่าน ซึ่งอยู่ทางอีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำ แต่แล้วก่อนถึงเวลา 21 นาฬิกาเล็กน้อย ก็มีผู้ไปตามท่านที่บ้านพร้อมทั้งแจ้งข่าวว่า “พระเจ้าอยู่หัวกำลังจะสวรรคต” ถึงตอนนั้นเหตุการณ์ก็สายเกินไปเสียแล้ว เพราะกว่าเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์จะลงเรือกลับไปถึงพระบรมมหาราชวัง พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคตไปแล้วเมื่อหลายนาทีก่อนหน้านั้น (มงคล เดชนครินทร์ 2547 : 32-33)

หน้า 5 จากทั้งหมด 7 หน้า
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7