นายท้ายช้างพระที่นั่งเห็นลูกปืนชาวเมืองหนานัก เกรงจะมาถูกเจ้าตาก จึงเกี่ยวช้างพระที่นั่งให้ถอยออกมา เจ้าตากขัดพระทัยชักพระแสงหันมาจะฟัน นายช้างตกใจร้องทูลขอชีวิตไว้ แล้วไสช้างกลับเข้ารื้อบานประตูเมืองพังลง พวกทหารก็กรูกันเข้าเมืองได้ พวกชาวเมืองรู้ว่าข้าศึกเข้าเมืองได้แล้ว ต่างก็ละทิ้งหน้าที่พากันแตกหนี ส่วนพระยาจันทบุรีก็พาครอบครัวลงเรือหนีไปยังเมืองบันทายมาศ เมื่อเจ้าตากตีเมืองจันทบุรีได้นั้นเป็น วันอาทิตย์ เดือน 7 ปีกุน พ..2310 ( ตรงกับวันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ.2310) เสียกรุงศรีอยุธยาแล้วได้ 2 เดือน

หนังสือสำเภาสยาม ตำนานเจ๊กบางกอกกล่าวว่า “ ...ในการตีเมืองที่จันทบุรีสมเด็จพระเจ้าตากสิน ทรงได้รับความช่วยเหลือจากจีนเจี้ยน นายสำเภาจากเมืองตราด ผู้ได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระยาอภัยพิพิธ เจ้าเมืองตราดในเวลาต่อมา... ” (พิมพ์ประไพ พิศาลกุล, 2514 : 97 )

เจ้าตากตีเมืองจันทบุรีได้แล้วก็เกลี้ยกล่อมผู้คนให้กลับคืนมายังภูมิลำเนา แสดงความเมตตาอารีให้ปรากฏว่ามิได้ถือโทษผู้ที่ได้เป็นศัตรูต่อสู้มาแต่ก่อน ครั้นเห็นว่าเมืองจันทบุรีเรียบร้อยอย่างเดิมแล้วจึงยกกองทัพลงไปยัง เมืองตราด ทรงเดินทัพ 7 วัน 7 คืน พวกกรมการและราษฎรก็พากันเกรงกลัว ยอมอ่อนน้อมโดยดีทั่วทั้งเมือง และขณะนั้นมีสำเภาจีนมาจอดอยู่ที่ปากน้ำเมืองตราดหลายลำ เจ้าตากให้ไปเรียกนายเรือมาเฝ้า พวกจีนขัดขืนแล้วกลับยิงเอาข้าหลวง เจ้าตากทรงทราบก็ลงเรือที่นั่งคุมเรือรบไปล้อมสำเภาไว้ แล้วบอกให้พวกจีนมาอ่อนน้อมโดยดี พวกจีนก็หาฟังไม่ กลับเอาปืนใหญ่น้อยระดมยิง รบกันอยู่ครึ่งวันเจ้าตากก็ตีเรือสำเภาจีนได้ทั้งหมด ได้ทรัพย์สิ่งของเป็นกำลังกองทัพเป็นอันมาก เจ้าตากจัดการเมืองตราดเรียบร้อยแล้วก็กลับขึ้นมาตั้งทัพอยู่ ณ เมืองจันทบุรี (รวมศักดิ์ ไชยโกมินทร์, พลโท, ผ่านศึกสาร, 2543 : 18-26)