เมื่อทหารพม่าพบทหารไทยที่ออกไปหาเสบียงจึงออกทำการล้อมไล่จับ ทหารไทยส่วนหนึ่งหนีมาบ้านพรานนก แจ้งให้พระยาวชิรปราการทราบ ด้วยความปรีชาสามารถอันฉับพลัน ได้สั่งการให้ทหารไทยจัดรูป ขบวนเป็นนกปีกกา โอบพม่า 2 ข้าง พระยาวชิรปราการขึ้นม้าพร้อมทหารคู่ใจ 5 ม้านำหน้าออกไปพบกับทหารม้าพม่า 30 ม้าที่กำลังเดินทางมาด้วยความประมาท เมื่อเผชิญหน้ากับขบวนม้าพระยาวชิรปราการอย่างคาดไม่ถึง พระยาวชิรปราการจึงเข้าทำการจู่โจมอย่างรวดเร็ว ทหารพม่าเกิดโกลาหล ด้วยความตกใจทำการสู้พลางถอยพลาง ไปปะทะกำลังทหารพม่า 200 คน ที่ตามมา ช่วงนี้เองทหารราบไทยที่วางกำลังปีกกาโอบไว้ 2 ข้าง ได้โอกาสจึงทำการจู่โจมตีรุกไล่ฟันพม่าล้มตาย ที่เหลือตายก็หลบหนีแตกกระจายไปหมดสิ้น |
รูปปั้นเฒ่าคำ บ้านพรานนก (ภาพจากหนังสือสงคราม : ประวัติศาสตร์) |
หมายเหตุ : บ้านพรานนก นี้มีพรานคนหนึ่งชื่อ เฒ่าคำ ชอบล่านกเป็นอาชีพอยู่คนเดียว หมู่บ้านนี้คงมีนกชุม ทำให้เฒ่าคำออกล่านกด้วยหน้าไม้เป็นประจำ และนกที่ล่าได้เฒ่าคำคงเอาไปแจกทหารของพระยาวชิรปราการ ได้ย่างกินแกงกินในเวลานั้นด้วย สมัยก่อนตามบ้านนอกถ้าผู้ใดมีอาชีพเฉพาะ เช่นล่าไก่ป่าก็เรียกว่าพรานไก่ ล่ากระต่ายก็เรียกพรานกระต่าย เฒ่าคำชอบล่านกจึงเรียกว่าพรานนกเป็นชื่อบ้าน กับได้ปั้นรูปเฒ่าคำไว้ด้วย พระยาวชิรปราการได้สร้างวีรกรรมด้วยทหารม้าไทย 5 ม้าต่อสู้กับทหารพม่า 30 ม้า ประกอบทหารราบทั้งสองฝ่ายจำนวนไล่เลี่ยกัน ผลสุดท้ายฝ่ายพม่าพ่ายแพ้ถอยหนีไม่เป็นขบวน เหตุครั้งนี้เกิดขึ้นที่บ้านพรานนก ตรงกับวันที่ 4 มกราคม พ.ศ.2309 เหล่าทหารม้าจึงกำหนดเอาวันที่ 4 มกราคมของทุกๆ ปี เป็น วันทหารม้า และได้สร้างอนุสรณ์สถานไว้ ณ บ้านพรานนก หมู่ที่ 2 ต . โพธิ์สาวหาญ อ . อุทัย จ . พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 4 มกราคม พ.ศ.2534 ความสำคัญของหมู่บ้านนี้ ทางราชการเอาไปตั้งชื่อหมู่บ้านฝั่งธนบุรี ชื่อบ้านพรานนกอยู่ใกล้เคียงกับบ้านช่างหล่อและบ้านขมิ้น
ชัยชนะครั้งนี้พระยาวชิรปราการได้ราษฎรที่หลบซ่อนพม่าเข้ามาร่วม และท่านได้ให้ชาวบ้านไปกล่าวชักชวนกันมาร่วมกับท่านด้วย หัวหน้าหมู่บ้านที่เรียกว่า นายซ่อง เข้ามาร่วมด้วย ก็ม |
ี ขุนหมื่นพันทนาย บ้านบางดงมิเชื่อคำชักชวนของพระยาวชิรปราการ จึงไม่เป็นพวกคิดต่อสู้ ด้วยเหตุนี้พระยาวชิรปราการจึงปราบปรามด้วยกำลังได้ไว้ในอำนาจ ก่อนเดินทัพไปนาเริ่ง ( ปัจจุบันคืออำเภอบ้านนา ) เขต จังหวัดนครนายก พระยาวชิรปราการได้กำลังพล ช้าง ม้า พาหนะ เสบียงอาหารไว้จำนวนหนึ่ง |