 |
ข. สมัยแผ่นดินสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก (พ.ศ. 2325-2346)
เมื่อรัชกาลที่ 1 ทรงตั้งกรุงรัตนโกสินทร์ขึ้นแล้ว เจ้าพระยาสุรสีห์พิษณุวาธิราช (บุญมา) ได้รับสถาปนาขึ้นเป็น สมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ตำแหน่งมหาอุปราช (วังหน้า) รับหน้าที่แม่ทัพเอกของ สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระบรมเชษฐาธิราช ต่อมาอีกจนกระทั่งสวรรคต ท่านได้ทรงยกกำลังทหารออกไปรบหลายครั้ง ฐานะของพระองค์ในขณะนั้นคือ แม่ทัพแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พระองค์ทรงมีพระปรีชาสามารถสูงส่ง เป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัย ของสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช
แต่เดิมบ้านพัก หรือตำหนักของเจ้าพระยาสุรสีห์ (บุญมา) อยู่ที่ปากคลองบางลำพู ใกล้วัดตองปุ หรือวัดชนะสงคราม เจ้าศรีอโนชา (ชายา) ได้อยู่ที่บ้านพักแห่งนี้ และมีธิดาด้วยกัน 1 คน เมื่อพ.ศ.2320 ต่อมาเมื่อเจ้าพระยาสุรสีห์ ได้รับสถาปนาเป็นวังหน้า จึงเรียกธิดาว่า เจ้าฟ้าพิกุลทอง
หลักฐานร่วมสมัยกรุงธนบุรีคือ จดหมายเหตุความทรงจำกรมหลวงนรินทรเทวีกล่าวว่า ปลายรัชกาลธนบุรี เกิดโกลี เมื่อธิดา (เจ้าฟ้าพิกุลทอง) อายุได้ 4 ขวบนั้น กรุงธนบุรีก็มีเหตุร้าย ขณะที่แม่ทัพใหญ่ 2 พี่น้องคือ สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก และเจ้าพระยาสุรสีห์ไปราชการทัพที่ญวนและเขมร พระยาสรรค์และพวกยกกำลังเข้าปล้นบ้านพระยาสุริยอภัย หลานสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกและเจ้าพระยาสุรสีห์
หนังสือไทยรบพม่าได้บันทึกบทบาทของเจ้าศรีอโนชา หรือเจ้าศิริรจนาตอนนี้ว่า ...เมื่อเกิดการรบขึ้นนั้น เจ้าศิริรจนาท่านผู้หญิงของเจ้าพระยาสุรสีห์ อยู่ที่บ้านปากคลองบางลำภู รู้ข่าวว่าข้าศึกมาปล้นบ้านพระยาสุริยอภัย จึงคิดอ่านกับพระยาเจ่ง พระยาราม นายกองมอญ เพื่อปราบกบฏ ขณะเดียวกันตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ บันทึกว่า เจ้าศรีอโนชาได้ใช้ดั้น (จดหมาย) ไปหาชาวปากเพรียวเข้ามา แล้วมีอาชญาว่า คันสูยังอาษาพระยาสิงพระยาสันได้ ในเมื่อกูมีชีวิต กูบ่หื้อสูได้ทำการบ้านเมือง จะหื้อสูสะดวกค้าขายตามสะบายเท่า เว้นไว้แต่การกูต้องประสงค์ว่าฉันนั้น ชาวปากเพรียวอาษาเข้ายับ (จับ) เอาพระยาสิง พระยาสันได้แล้วฆ่าเสีย
เจ้าศรีอโนชา หงายเมือง ได้ไว้แล้วไปเชิญสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก เจ้าพระยาสุรสีห์สองพี่น้องเข้ามาผ่านพิภพ ขึ้นเสวยราชย์... (ดูตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ 700 ปี 2539 หน้า 118)
ชาวปากเพรียวที่อาสาเข้ามา คงเป็นคนลาวหรือยวนในสังกัดของเจ้าศรีอโนชาจึงมีจดหมายฉบับ (ดั้น) สั่งไปให้มาปราบกบฏได้ บริเวณปากเพรียวนี้ต่อมาเป็นที่อยู่ของชาวยวนเชียงแสนจำนวนมาก หลังจากเจ้ากาวิละพี่ชายของเจ้าศรีอโนชา นำทัพตีเชียงแสนแตกเมื่อ พ.ศ.2347 หลักฐานดังกล่าวแสดงถึงบทบาทของเจ้าศรีอโนชาในฐานะอยู่เบื้องหลังของการสถาปนาราชวงศ์จักรีอย่างชัดเจน |
|
|