หมายเหตุ :
พระยาสรรค์นี้สมเด็จพระปิยมหาราชได้ทรงวิจารณ์ไว้ว่า “พระยาสรรค์คนนี้อัธยาศัยชอบกล ความปรากฏทั้งในทางพงศาวดารและในจดหมายบันทึกๆ ว่าเป็นผู้ที่เขาจับให้เป็นแม่ทัพลงมา ครั้นเขาลดเจ้ากรุงธนบุรีเสียจากราชสมบัติแล้ว ก็ปรากฏว่าจะตั้งใจถวายสมบัติให้แก่สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกฯ ก็ไม่ยั่งยืนอยู่ได้ กลับไปปล่อยเจ้ารามลักษณ์ออกให้ไปทำร้ายกรมพระราชวังหลัง (พระยาสุริยอภัย) จะว่ามีความคิดจะตั้งตัวเองเป็นใหญ่ ก็คิดไม่แข็งแรงตลอดรอดฝั่งอย่างไร ครั้นเมื่อเขาจับเจ้ารามลักษณ์ได้แล้ว ก็ควรจะรู้ว่าเจ้ารามลักษณ์ (กรมขุนอนุรักษ์สงคราม) คงให้การซัดทอดถึงตัว จะแก้โดยทางสารภาพหรือแก้โดยทางต่อสู้ ก็ไม่แก้ นิ่งเฉยอยู่เช่นนั้น ครั้นพระพุทธยอดฟ้า (สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก) เสด็จมาถึงก็ออกไปเฝ้าทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น เห็นจะเป็นคนที่ไม่มีสติปัญญาเป็นหลักสำคัญอันใดเลย ใครจับไสให้ไปทางไหนก็จะไปทางนั้น ”

ฝ่ายพระยาสุริยอภัย ครั้นจับตัวกรมขุนอนุรักษ์สงครามคุมขังไว้แล้ว ก็สั่งให้ตั้งค่ายที่สวนมังคุดรายไปจนถึงคลองนครบาลอันเป็นเขตพระราชวัง แล้วให้สึกสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ที่กักขังไว้ใกล้พระอุโบสถวัดอรุณราชวราราม นำมากักขังไว้ที่ค่าย โดยมีความประสงค์ที่จะป้องกันมิให้เกิดเหตุขึ้นได้อีก

พงศาวดารได้เสริมความตอนนี้ให้รุนแรงขึ้นไปอีกว่า พระยาสุริยอภัย (ทองอิน) กับพระยาสรรค์ที่ปรึกษากันให้สึกสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชออกจากพระภิกษุแล้ว พันธนาการไว้ด้วยเครื่องสังขลิกพันธ์ (คือโซ่ตรวน )

หมายเหตุ :
แต่ข้อนี้ไม่อาจจะเป็นไปได้ เพราะจดหมายเหตุความทรงจำยืนยันว่า จนถึงเวลาที่พระเจ้าหลานเธอกรมขุนอนุรักษ์สงคราม ยกกองไปปราบกองทัพพระยาสุริยอภัย (ทองอิน) นั้น สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ยังทรงผนวชอยู่ตามเดิม ทั้งพระราชพงศาวดารฉบับสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ (ด้วง) ทรงชำระเรียบเรียงพิมพ์เป็นประชุมพงศาวดาร ภาคที่ 65 ก็รับรองว่า ขณะที่เจ้าพระยาจักรี (ด้วง) ยกทัพรีบรุดเข้ามาถึงกรุงธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชยังทรงเพศเป็นพระภิกษุอยู่ เป็นอันฟังได้ว่า ในตอนนี้ยังไม่ถูกจับสึก และพระยาสุริยอภัย (ทองอิน) คงไม่กล้าพอที่จะหักหาญจับพระผู้กู้ชาติสึกง่ายๆ (http://board.dserver.org/n/natshen/00000133.html , 21/11/45)