ทว่าเมื่อเป็นเหตุผลอันไม่มีข้อพิสูจน์ให้ชัดเจนลงไป ผู้เขียนเรื่อง “ บุญบรรพ์ ” จึงมิได้บรรยายลงไปเป็น “ ภาพพจน์ ” ให้ผู้อ่านเห็นจริงเห็นจัง ทว่าให้เป็นคำบอกเล่าของตัวละคร ซึ่งมีตัวละคร ซึ่งมีตัวตนจริงและมีลูก หลาน เหลน โหลน ต่อๆ กันมาจนถึงปัจจุบัน เช่น พระพงษ์นรินทร์ (เจ้าฟ้าชายทัศน์พงศ์ หรือทัศพงศ์) ท้าวทรงกันดาล (ทองมอญ) เจ้าจอมมารดาทิม (เจ้าจอมมารดาของพระองค์เจ้าอัมพวันหรือคุณวัน) เช่นเหตุการณ์เมื่อนำพระองค์ไปสำเร็จโทษในตอนกลางดึก ก็ให้พระพงศ์นรินทร์ (ซึ่งตามจดหมายเหตุความทรงจำกรมหลวงนรินทรเทวี เล่าว่า ขณะนั้นอายุ 11 ขวบ ได้เข้าไปเฝ้าพระราชบิดา ติดอยู่ในโบสถ์เพียงผู้เดียว) เป็นผู้ออกมาเล่าแก่ชนนี คือกรมหลวงบริจาสุดารักษ์หรือเจ้าจอมมารดาฉิม รวมทั้งให้ตัวละครพูดจากันแสดงเพียงนัย มิได้พูดจาบอกเล่ากันอย่างเปิดเผย เช่นเมื่อพระยาพัทลุงมาพบกับพระยานนทบุรีคราวหลัง

ข้อกังขาที่ให้ตัวละครเน้นแล้วเน้นอีกก็คือ การที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ไม่ทรงยอมให้ประหารพระราชโอรสในสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ซึ่งเวลาครองราชเพียง 15 ปี พระราชโอรสธิดาจึงยังทรงพระเยาว์ทั้งสิ้น แม้ว่ากรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท จะทรงขอให้นำไปล่มเรือกลางน้ำให้หมดตามธรรมเนียม ตรงนี้น่าคิดเพราะตามธรรมเนียมธรรมดาแล้ว หากประหารพ่อมักต้องประหารลูกให้สิ้น ป้องกันการแก้แค้นในภายหน้า ทว่านี่ นอกจากไม่ประหารแล้ว พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ ยังทรงเลี้ยงดูบางท่านอย่างใกล้ชิด เสมือนลูกหลาน เจ้าหญิงสององค์ต่อมาได้เสกสมรสเป็นชายาของเจ้านายพระราชวงศ์จักรีคือ พระองค์เจ้าหญิงสำลีวรรณ พระองค์เจ้าหญิงปัญจปาปี ส่วนรุ่นพระราชนัดดาในสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชนั้น มีมากมายหลายท่านล้วนแต่ใกล้ชิดสนิทในพระราชวงศ์จักรี เป็นเจ้าจอมหม่อมห้ามบ้าง เป็นพระนมของเจ้าฟ้าบ้าง

นักประวัติศาสตร์บางท่านสันนิษฐานว่า บางทีการสำเร็จโทษสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเพื่อผลัดเปลี่ยนแผ่นดินใหม่นั้น น่าจะเป็นกลลวง เนื่องจากเมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงกู้ชาติสำเร็จ เสด็จฯ มาทรงสร้างกรุงธนบุรีเป็นเมืองหลวง นัยว่าทรงกู้เงินจากพวกพ่อค้าจีน หรือนัยหนึ่ง เมืองจีนมาทำนุบำรุงบ้านเมือง เลี้ยงดูราษฎรที่อดอยาก แล้วพูดง่ายๆ ว่า ไม่มีเงินใช้ จึงต้องล้มหนี้ โดยเปลี่ยนพระเจ้าแผ่นดิน

นี่เป็นเพียงข้อสันนิษฐาน แต่ที่น่าสะดุดใจอยู่ตรงหนังสือประวัติความสัมพันธ์ระหว่าง ชาติไทยกับชาติจีน ซึ่งเขียนโดย “ ลิขิต ฮุนตระกูล ” (ขออนุญาตท่านนำมาอ้างในที่นี้)

ในหนังสือเล่มนี้ มีบันทึกเหตุการณ์เกี่ยวกับประเทศสยามโดยเฉพาะ (คัดจากบันทึกของประเทศจีน) ตั้งแต่สมัยพระเจ้ารามคำแหงมหาราช จนถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กรุงรัตนโกสินทร์ (พ.ศ.1825 - พ.ศ.2396) ทว่าในที่นี้ ขออนุญาตอ้างถึงเพียงสมัยกรุงธนบุรี และต้นรัตนโกสินทร์ ซึ่งบันทึกไว้ว่า “ ประเทศสยาม สมัยกรุงธนบุรีเป็นราชธานี” มีกษัตริย์องค์เดียวคือ พระเจ้ากรุงธนบุรี