เรือทั้งหมดที่บรรทุกสิ่งของรวม 11 ลำ มิใช่ว่าเป็นเรือของหลวงทั้งหมด หากเป็นเรือที่เช่าพ่อค้ามา 7 ลำ ได้ฤกษ์แล้วมุ่งหน้าออกสู่ปากอ่าวพระประแดงในสมัยก่อน หากเป็นปากอ่าวเจ้าพระยาในปัจจุบัน ขบวนเรือติดแห้งรอน้ำขึ้นที่สมุทรปราการ 2 วัน เมื่อออกปากอ่าวสู่ทะเลแล้วก็เกิดอุปสรรคอีก เพราะลมไม่แรงพอต้องแล่นก้าว เรือเสียเวลาถึง 20 วัน หลบมุมเข้าสามร้อยยอด จากนั้นจึงทำพิธีบัดพลีตามธรรมเนียมชาวทะเล พอลมดีจึงแล่นเข้าสู่ด้านเวียดนามปัจจุบัน มีบางคนเมาคลื่นน่าเวทนา แม้จะผ่านอุปสรรคทางด้านอ่าวไทยไปแล้ว เข้าเขตทะเลเวียดนามก็หาได้พ้นอุปสรรคไม่

    แล้วเกิดพายุใหญ่จนใบกลับ
ทั้งคลื่นทับเทฟองทั้งนองฝน
เป็นพยุพยับทั่วมัวมน
กำลังฝนแลบพรายกระจายไป
เสียงคลื่นประหนึ่งพื้นสุธาวาส
จะวินาศไปด้วยชลไม่ทนได้
ตลิ่งนิ่งเห็นเขาวิ่งวุ่นวายไป
บ้างร้องไห้รักตนอยู่ลนลาน
บ้างก็ยึดมัดไม้ใบเก่า
บ้างก็เฝ้าถังน้ำและสำป้าน
เห็นการผิดแล้วก็คิดนมัสการ
สละพาลภาวนารักษาตน

ออกจะเป็นวัฒนธรรมของคนทั่วโลก พอภัยมาถึงตัวก็หันเข้าหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถ้าเป็นไทยก็ไหว้ปลกๆ จะอย่างไรก็ตาม คณะทูตานุทูตก็ผ่านอุปสรรคเหล่านี้ไปได้ จนเข้าเขตเมืองกวางตุ้ง ทหารเรือมาตรวจตราอย่างเข้มงวดกวดขัน ไม่ยอมให้ขึ้นฝั่ง อันท่าเรือนั้นทุกแห่งในโลกนี้ย่อมมีนารีประจำตั้งแต่โบราณกาลมาแล้ว 200 กว่าปีมีอย่างไร ปัจจุบันก็ยังมีอยู่ ดูแต่ที่พัทยาเป็นต้น พระยามหานุภาพบันทึกเรื่องนี้ไว้ว่า