15.2.1 ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับจีนในสมัยกรุงธนบุรีเป็นอย่างไร ?
จากจดหมายเหตุจีนว่าด้วยกรุงสยาม ซึ่งแปลโดยหลวงเจนจีนอักษร ( สุดใจ ) พนักงานหอพระสมุดวชิรญาณ แปลจากหนังสือจีน 3 เรื่อง คือ หนังสือคิมเตียชกทง หนังสือหวงเฉียงบุ๋นเหี่ยนมงเค้า และหนังสือยี่จั๋บสี่ซื้อ ตอนเหม็งซื้องั่วก๊กเลี่ยต้วน ถวายในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หนังสือจีนทั้ง 3 เรื่อง เป็นหนังสือหลวงซึ่งพระเจ้ากรุงจีนราชวงศ์ไต้เชง แผ่นดินเขียนหลง ให้กรรมการข้าราชการตรวจจดหมายเหตุของเก่าในเมืองจีนมาเรียบเรียง ( ตรงสมัยเมื่อครั้งกรุงธนบุรี ) ว่าด้วยเมืองต่างประเทศที่เคยมีไมตรีมากับกรุงจีน หนังสือเหล่านี้จึงมีเรื่องเมืองไทยด้วยว่า ไทยและจีนมีความสัมพันธ์ทางการทูตมาแต่ครั้งสมัยสุโขทัย กรุงศรีอยุธยา และกรุงธนบุรี ซึ่งคัดลอกข้อความเฉพาะความสัมพันธ์ไทยจีนในสมัยกรุงธนบุรี ปรากฏความดังนี้
ตรงในแผ่นดินกรุงธนบุรี
แผ่นดินเขียนหลงปีที่ 46 ซินทิ้วเจี่ยง้วย ( ตรง ณ เดือนสาม ปีฉลูจุลศักราช 1143) เสี้ยมหลอก๊กเจี๋ยงแต้เจียว ( พระเจ้ากรุงสยามเรียกว่าเจี๋ยงนั้น กรุงจีนยังไม่ได้ยกย่อง แต้เจียว พระนามเจ้ากรุงธนบุรีที่ออกไปในภาษาจีน ) ให้หลงปีไช่ซาณี ( หลวงพิไชยธานี หรือเพชรปราณี ) กับเฮอ้กบู้ตุด ( อุปทูต ) สองนายเป็นราชทูตนำเครื่องบรรณาการมาถวาย ทูลว่าตั้งแต่ถูกพวกเมี้ยนฮุ้ย ( โจรพม่า ) มาย่ำยีแล้วถึงได้แก้แค้นทดแทนตีได้อาณาเขตมาก็จริง แต่เชื้อพระวงศ์ของเจ้านั้นสูญสิ้น พวกขุนนางพร้อมใจกันยกแต้เจียวขึ้นเป็นใหญ่ จึงจัดสิ่งของในพื้นที่ประเทศ ส่งมาถวายเป็นเครื่องบรรณาการตามธรรมเนียม
ขุนนางผู้ใหญ่รับสั่งพระเจ้าเกาจงสุนฮองเต้ว่า เราแจ้งว่าเสี้ยมหลอก๊กเจี๋ยงให้ราชทูตลงเรือข้ามทะเลมาแต่ไกล เห็นได้ว่ามีความเคารพนับถือ แล้วขุนนางผู้ใหญ่ก็เขียนหนังสือตอบราชสาส์นตามข้อความราชสาส์นเดิม
พระเจ้าเกาจงสุนฮองเต้ทรงเห็นว่า ทางมาแต่เสี้ยมหลอก๊กต้องข้ามภูเขาที่สูงและข้ามทะเลที่กว้าง ประทานโต๊ะเลี้ยงราชทูตสองวัน
|