วันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ.2319 หลี่ซื่อเหยา ได้ร่างหนังสือเรื่องนี้กราบทูลไปยังเมืองหลวง พระเจ้ากรุงจีนจึงรับสั่งให้ อู๋หมินจง แม่ทัพมีหนังสือถึงหลี่ซื่อเหยาความว่า เจิ้นเจ้าเมื่อได้พบคนจีนในไทยก็จะช่วยคนเหล่านี้ โดยส่งกลับจีนเพื่อเป็นการเอาใจพระเจ้ากรุงจีน ครั้งก่อนเรายอมให้เขาซื้อกำมะถันและกระทะเหล็กได้ และคราวนี้ก็ยอมให้ซื้อได้อีกในจำนวนเดิม หนังสือนี้หลี่ซื่อเหยาจึงได้ส่งมาให้เจิ้นเจ้าทราบว่า หลังจากที่เจิ้นเจ้าได้รวมประเทศได้แล้วนั้น แรกทีเดียวเขาต้องการขอพระราชทานตราตำแหน่งพิเศษจากพระเจ้ากรุงจีน หลังจากนั้นเขาก็พยายามช่วยจีนรบพม่า จับแม่ทัพพม่าที่ยึดเมืองชิงไหมได้และส่งไปยังจีน ทั้งยังได้ส่งเชลยพม่าไปให้จีน ซึ่งการกระทำต่างๆ นี้เป็นการแสดงความเอาใจต่อพระเจ้ากรุงจีน เจิ้นเจ้ามีกำลังทหารมากขึ้นและได้ส่งกองทัพไปตีพม่า ดังนั้นเขาจึงต้องการอาวุธมาก รวมทั้งต้องการซื้อวัสดุที่ใช้ในการรบ เช่น กำมะถันและกระทะเหล็กจากจีน และเนื่องจากเจิ้นเจ้าได้ทำสิ่งต่างๆ อย่างระมัดระวัง และแสดงความอ่อนน้อมต่อพระเจ้ากรุงจีน ด้วยเหตุนี้หลี่ซื่อเหยาจึงยอมให้เขาซื้ออาวุธ
รายละเอียดการติดต่อเป็นพระราชไมตรี ครั้งที่ 7
เดือนเมษายน พ.ศ.2320 ปีที่ 42 รัชกาลพระเจ้าเฉียนหลง หลี่ซื่อเหยา ได้ร่างหนังสือที่จะมีไปถึงเจิ้นเจ้าขึ้นถวายพระเจ้ากรุงจีนทรงพิจารณา ความในหนังสือมีว่า เราทราบว่าเจิ้นเจ้ายังได้พยายามขอพระราชทานตำแหน่งพิเศษ เพื่อว่าจะสามารถปกครองประเทศได้ หลี่ซื่อเหยาจำได้ว่าก่อนหน้านั้นพระเจ้ากรุงจีนรับสั่งว่า ชาวต่างประเทศที่ขอพระราชทานตำแหน่งพิเศษเพื่อที่จะเข้าถวายเครื่องราชบรรณาการนั้นไม่จำเป็นต้องส่งมามาก ดังนั้น ถ้าเจิ้นเจ้าพยายามที่จะส่งของเข้ามาถวายอีก พระเจ้ากรุงจีนโปรดให้หลีซื่อเหยาพิจารณาเหตุการณ์ต่างๆ และให้ส่งรายงานขึ้นไปถวาย ครั้งแรกหลี่ซื่อเหยาสงสัยว่าเจิ้นเจ้าอาจจะพยายามเริ่มรวมอำนาจภายในประเทศ และจะใช้ตำแหน่งพิเศษจากพระเจ้ากรุงจีนเป็นเครื่องค้ำอำนาจ เหตุการณ์นี้น่าจะเป็นจริง เพราะว่าเจิ้นเจ้าเมื่อรบกับพม่านั้นก็ไม่มีใครที่ได้เห็นเหตุการณ์จริงๆ แต่หลี่ซื่อเหยาเชื่อแน่ว่าเรื่องนี้ต้องเป็นความจริงเพราะจากคำให้การที่ ซุ่นปั๋วเฉียง ซึ่งเป็นขุนนางคนหนึ่งกับ หยังเฉาผิง ซึ่งเป็นชาวบ้านอีกคนหนึ่งได้ให้การตรงกันว่า เจิ้นเจ้าได้ฆ่าพม่าเป็นจำนวนมาก และยังได้ข่าวจากพ่อค้าที่เดินทางทางทะเลอีกว่าเจิ้นเจ้ามีเพื่อนที่ดีที่สุดคนหนึ่งเป็นศัตรูร้ายกาจหรือศัตรูคนสำคัญของพม่า จะเห็นได้ว่าเรื่องนี้เป็นการพยายามเสนอความคิดที่จะชักชวนให้เจิ้นเจ้าส่งเครื่องราชบรรณาการมาถวายพระเจ้ากรุงจีน เพื่อเป็นการให้พระเจ้ากรุงจีนทรงยอมรับว่าตนเป็นกษัตริย์ที่ถูกต้องของไทย
เนื่องจากในเวลานั้นความสัมพันธ์ระหว่างพม่ากับจีนอยู่ในสภาพที่ไม่ดี และกองทัพของราชวงศ์ชิงพ่ายแพ้ในการรบ ตัว หลี่ซื่อเหยา นั้น เป็นผู้ว่าการมณฑลสองมณฑลคือกว่างตุ้งและกว่างชี อยู่แล้วและยังพยายามที่จะควบคุมยูนานและไกวเจาอีก หลี่ซื่อเหยาจึงได้พยายามชักชวนที่จะให้ไทยได้ส่งเครื่องราชบรรณาการ ด้วยจุดประสงค์ที่ต้องการให้ไทยช่วยโจมตีพม่าทางด้านหลัง และพระเจ้ากรุงจีนก็ทรงเห็นชอบด้วยกับความคิดนี้ แต่พระองค์ก็ไม่ทรงต้องการที่จะมีพระราชสาส์นไปเอง แต่ทรงแนะให้หลี่ซื่อเหยามีหนังสือไปถึงเจิ้นเจ้าแทน โดยพระองค์ทรงรับสั่งให้หยังจิ่งซู่เป็นผู้นำหนังสือไปไทย
|