จะเห็นได้ว่า เจิ้นเจ้าได้ว่าพยายามเอาใจพระเจ้ากรุงจีนและพยายามส่งเครื่องราชบรรณาการหลายครั้ง แม้ว่าทางโม่ซื่อหลิงก็พยายามชักชวนพระเจ้ากรุงจีนให้เข้ากับตนและพยายามใส่ร้ายเจิ้นเจ้าหลายครั้ง จนทางราชสำนักจีนเกิดอคติกับเจิ้นเจ้า ด้วยเหตุนี้โม่ซื่อหลิงและเจิ้นเจ้าจึงมักต่อต้านซึ่งกันและกัน เมื่อโม่ซื่อหลิงยกกองทัพลงมาเพื่อส่งเซ่าเทร่กลับไปเมืองหลวง ระหว่างทางเมื่อถึงจันเจ๋ออ๋วนจึงถูกกองทัพของเจิ้นเจ้าโจมตี ทหารส่วนมากได้รับบาดเจ็บ จึงยกทัพกลับเหอเฉี้ยน จากคำให้การของโม่ซื่อหลิงที่มีไปถึงจีนจึงว่า เมืองเหอเฉี้ยนของตนได้พ่ายแพ้เพราะสวรรค์ไม่ทรงปรานีป้องกัน ทางเมืองหลวงมีขุนนางชื่อเจิ้นเจ้าได้พยายามมาตีเมืองของตนและในระหว่างปี พ.ศ.2311 นั้นตนได้รับคำสั่งจากพระเจ้ากรุงจีนให้ตรวจหาตราพิเศษที่จีนให้มาแต่เดิมและขุนนางจีนที่มาสอบสวนมากับเรือของโม่กวงอี้ ซึ่งเรือนี้หายไปที่เมืองลิ่วควน (นครศรีธรรมราช เพี้ยนไปจาก ลู่เควิน ขุนนางจีนเสียชีวิต กัปตันเรือคือ หยังจิ้นจง ก็ได้พยายามร่วมมือกับเจิ้นเจ้ามาที่เหอเฉี้ยนเพื่อขอตรานี้ ตนได้ทำตามระเบียบของจีนเสมอมา แต่ถ้าองค์รัชทายาทที่แท้จริงของไทยต้องการที่จะรวบรวมตั้งประเทศขึ้นใหม่ และขอตรามาตนก็จะให้ แต่เจิ้นเจ้ามิได้เป็นองค์รัชทายาทที่แท้จริง และมาขอตราจากตนหลายครั้ง ทั้งยังขอให้มอบเซ่าเทร่และเซ่าซื่อทั้งซึ่งเป็นรัชทายาทด้วย ตนคิดว่าองค์รัชทายาทระยะนี้เหลือเพียงสามพระองค์ คนหนึ่งคือ ซ่าหวังจี๋ ซึ่งก็ถูกเจิ้นเจ้าปลงพระชนม์แล้ว ราชธิดาก็ไปเป็นภรรยาของขุนนางคนหนึ่งที่เหลือคือ เซ่าเทร่กับเซ่าซื่อทั้ง ซึ่งถ้าตนทราบว่า องค์รัชทายาทสามารถแสดงพระองค์ได้ และกอบกู้ตั้งประเทศขึ้นใหม่ ตนก็จะช่วย และในขณะนี้ตนก็ได้ปฏิบัติตามพระราชโองการของพระเจ้ากรุงจีนแล้วด้วยการส่งกองทัพไปช่วยเซ่าเทร่รวมประเทศ แต่ก็ถูกเจิ้นเจ้ายกทัพเข้าโจมตีจึงกลับมาเหอเฉี้ยนอีก ตนมิอาจจะปลงพระชนม์องค์รัชทายาททั้งสองนั้นได้ แต่ก็ได้ป้องกันอารักขา ดังนั้นตนจึงได้ต่อต้านเจิ้นเจ้า
สำหรับเรื่องตรา ซึ่งเป็นปัญหายืดเยื้อนั้น สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 14 เมษายน พ.ศ.2309 ปีที่ 31 รัชกาลพระเจ้าเฉียนหลงนั้น กษัตริย์ไทยครั้งกรุงศรีอยุธยาได้ทรงส่งขุนนางชื่อ พะหยาเก๋าถ่งเฮ่อเฟ้ ไปยังเมืองหลวงของจีนที่หนานจิง และพระเจ้ากรุงจีนได้พระราชทานตราพิเศษมาถวายกษัตริย์ไทย นอกจากนี้ยังมีของขวัญจากพระเจ้ากรุงจีนด้วยเช่นผ้าหลายสี เครื่องหยก โมรา และเครื่องถ้วยอย่างดี ครั้งนั้นกรุงศรีอยุธยาถูกพม่าเข้าโจมตีพ่ายแพ้ ราชทูตผู้นั้นได้กราบทูลพระเจ้ากรุงจีนว่า กษัตริย์ทรงสิ้นพระชนม์แล้ว เขาจึงนำของเหล่านั้นไปกว่างโจว และในวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ.2311 ได้ลงเรือเดินทางกลับไทย ในเวลานั้นทางเจิ้นเจ้าต้องการที่จะส่งเครื่องราชบรรณาการให้ราชสำนักจีน จึงจำเป็นต้องมีตรานี้ เพราะว่าความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับกรุงศรี
อยุธยาเป็นดุจความสัมพันธ์ระหว่างนายกับบ่าว เมื่อโม่ซื่อหลิงได้ส่งตรานี้กลับคืนไปกว่างตุ้งแล้ว จึงทำให้ความสัมพันธ์ ระหว่างไทยกับจีนต้องหยุดชงักลง เมื่อเจิ้นเจ้ารวบรวมประเทศได้และเมื่อต้องการจะถวายเครื่องราชบรรณาการต่อพระเจ้ากรุงจีน แต่ไม่มีตรานี้จึงทำให้โกรธเคืองโม่ซื่อหลิงที่ส่งตรากลับคืนไป |