ความมุ่งหมายในการแต่ง เช่นเดียวกับกวีท่านอื่นที่แต่งกฤษณาสอนน้องคือ ให้เป็น ภาษิตสอนใจหญิง เกี่ยวกับการครองเรือน เป็นวรรณกรรมที่แต่งโดยอาศัยเค้าโครงเรื่องมาจากมหากาพย์เรื่อง มหาภารตะของอินเดีย ตัดเอาตอนนางกฤษณามเหสีของกษัตริย์ปาณฑพทั้งห้าสอนความประพฤติของสตรีผู้เป็นภริยา และแม่เรือนว่าควรประพฤติและปฏิบัติต่อสามีอย่างไร

แต่งเป็นคำฉันท์ด้วย กาพย์ฉบัง และ กาพย์สุรางคนางค์ เป็นส่วนใหญ่ มี อินทรวิเชียรฉันท์ และ วสันตดิลกฉันท์ บ้างเล็กน้อยในตอนท้ายเรื่อง

เนื้อหาสาระ กล่าวถึงกษัตริย์พรหมทัต พระราชาแห่งเมืองพาราณสี มีพระราชธิดา 2 พระองค์ คือพระนางกฤษณา และพระนางจิรประภา เมื่อพระราชบิดาทรงจัดให้มีการเลือกคู่ พระนางกฤษณาเลือกได้ 5 คน พระนางจิรประภาเลือกได้คนเดียว พระนางกฤษณามีความเฉลียวฉลาดสามารถในการปรนนิบัติจึงมีความสุขอยู่กับสามีอย่างที่สุด ส่วนพระนางจิรประภาบกพร่องในหน้าที่จึงหามีความสุขไม่ พระนางจิรประภาจึงขอร้องให้พระนางกฤษณาช่วยบอกวิธีการให้ พระนางกฤษณาจึงกล่าวสอนน้องว่า การที่จะทำให้สามีรักใคร่มีความสุขด้วยกันนั้น ผู้หญิงต้องฉลาดในการเรือน รู้หน้าที่ของภริยา บำรุงบำเรอสามีเก่ง ทำตัวอยู่ในโอวาทของสามี พระนางจิรประภาก็นำคำสอนของพี่ไปปฏิบัติต่อสามี (อุทัย ไชยานนท์ , 2545 : 25)

ลักษณะทั่วไป
1. ปรากฏชัดว่า สำนวนแต่งตอนต้นอ่อนกว่าตอนท้าย แสดงว่า พระยาราชสุภาวดีมีฝีมือ ฝีปากด้อยกว่าพระภิกษุอิน กับทั้งพระยาราชสุภาวดีคงถนัดแต่งกาพย์มากกว่าฉันท์ ตอนต้นจึงเป็นกาพย์ทั้งหมด เข้าใจว่าพระภิกษุอินเป็นกวีมีชื่อของเมืองนครฯ มีฝีปากคมคายและทิ้งท้ายด้วยความมั่นใจตามแบบของกวีชั้นครูว่า
เสร็จสารสฤษดิ์อนุสนธิ์ วงจรประจงฉันท์
ลำนำพฤทธิคณอัน นุประกอบยุบลกลอน
แต่งตามวโตไทยวรา ก็เสนาะสถาวร
เอก โท ครุ ลหุ สอน กุลบุตรพึงยล

2. ใช้ศัพท์แผลงและตัดศัพท์มาก โดยเฉพาะตอนต้นๆ