อันหมู่สาวสุดามัชฌิมาหม้าย นั้นแต่งกายแซมมวยด้วยไม้ไหว
ที่เยี่ยมยลอยู่บนตึกใน นั้นอำไพพิศพริ้งพรายตา
ดูยืนแต่ละอย่างกับนางเขียน ทั้งจีบเจียนยั่วยวนเสนหา
ผัดพักตร์ผิวพรรณดังจันทรา นัยนากวัดแกว่งดังแสงนิล
นาสิกเสื้องทรงดังวงขอ งามคองามคิ้วควรถวิล
งามเกศดำเพศภุมริน ปักปิ่นมวยห้อยสร้อยสุวรรณ
ปากแดงนั้นด้วยแสงลินจี่แต้ม เมื่อยิ้มแย้มน่าชมภิรมย์ขวัญ
ใส่เสื้องามสามสีสลับกัน พื้นสุวรรณแวววาบวิไลใจ
แม้นองค์พระธิดาดวงสมร จะเอกเอี่ยมอรชรสักเพียงไหน
แต่ได้ดูหมู่ข้ายังอาลัย ดังสายใจนี้จะยืดไปหยิบชม ฯลฯ
(อธิบายศัพท์บางคำ - เสื้องทรง หมายถึงรูปร่างสูงแหลม)

ภาพของหญิงจีนโบราณที่นิยมห่อเท้าให้เรียวเล็ก ก็มีปรากฏอยู่ในนิราศเรื่องนี้

อันชมสาวที่ชาวสถลมาศ ไม่อุจาดเหมือนจีนประจำท่า
อันรูปทรงสรรเสริญจำเริญตา ครั้งพิศเบื้องบาทาก็เสียดาย
เอาผ้าคาดขึงเหนี่ยวจนเรียวรัด พาวิบัติอินทรีย์ให้มีสลาย
จะดำเนินมิใคร่ตรงพอทรงกาย ย่อมใช้ชายขายค้ามาให้กิน ฯลฯ

ภาพขอทานเมืองจีนสมัยเมื่อ 200 ปีมาแล้ว

อันยาจกวรรณิพกที่ไปมา เที่ยวภิกขาจารขอไม่พอกิน
ก็อุบายทำกายนั้นต่างๆ จะร่ำปางโดยดูไม่รู้สิ้น
บ้างอุจานทานทำทั้งกายิน บ้างนั่งวอนนอนดิ้นลงโดยจน
บ้างก็เอามีดสับจับอิฐต่อย จนโลหิตแดงย้อยไปเต็มถนน
มิได้ของแล้วก็ร้องไม่จรดล ไปเห็นจนก็ได้คิดอนิจจา ฯลฯ
(อธิบายศัพท์บางคำ-อุจาน ในที่นี้หมายถึง อุจาด นั่นเอง)