พระเดียวบุญลาภเลี้ยง ประชากร
เป็นบิตุรมารดร ทั่วหล้า
เป็นเจ้าและครูสอน สั่งโลก
เป็นศักดิ์ศุภผลอ้า โอบให้เป็นคุณ

เป็นที่พำนักถ้วน นรชน
เป็นที่กรุณาคน ยากไร้
เป็นที่ส่งสัตว์ดล เมืองโมกข์
เป็นทรัพย์ปจุบันให้ ทั่วหน้าเนืองเขษม
(สมพันธุ์ เลขะพันธุ์, 2530 : 27)

คุณค่า
1. คุณค่าทางอักษรศาสตร์ ใช้ศัพท์ง่ายทำให้อ่านแล้วเข้าใจ บรรยายความได้ละเอียดลออดีมาก เป็นวรรณกรรมที่ดีเรื่องหนึ่ง มีสำนวนเรียบง่าย
2. คุณค่าทางประวัติศาสตร์ กล่าวถึงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ได้ถูกต้องละเอียดลออในสมัยของพระเจ้ากรุงธนบุรี ทำให้เรามองเห็นประวัติศาสตร์ช่วงนั้นได้ชัดเจนขึ้น และช่วยให้ทราบสถานที่ต่าง ๆ ในสมัยกรุงธนบุรี (อุทัย ไชยานนท์ , 2545 : 55)

13.2.4 หลวงสรวิชิต (หน) แต่งร้อยแก้วร้อยกรองอะไรบ้าง และวรรณกรรมชิ้นใดแต่งในสมัยกรุงธนบุรี ?
หลวงสรวิชิต (หน) เป็นบุตรเจ้าพระยาบดินทร์สุรินทร์ฤาชัย (บุญมี) กับท่านผู้หญิงเจริญ บรรพบุรุษเป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ รับราชการมีชื่อเสียงมาแต่สมัยอยุธยา ผู้นี้ต่อมาได้เลื่อนขึ้นเป็นเจ้าพระยาพระคลังในสมัยรัชกาลที่ 1 เป็นรัตนกวีที่ยิ่งใหญ่ท่านหนึ่งของเมืองไทยในยุคต้นแห่งสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ปรากฏหลักฐานในพระราชพงศาวดารว่าในสมัยกรุงธนบุรีนั้น ท่านเป็นผู้มีบรรดาศักดิ์เป็นหลวงสรวิชิต นายด่านเมืองอุทัยธานี มีบทบาทสำคัญในการปราบจรา-จลสมัยปลายกรุงธนบุรี ตามพงศาวดารพระราชหัตถเลขากล่าวว่า เป็นผู้มีส่วนสำคัญในการรักษาพระนครไว้รอจนกว่าสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกกลับจากไปตีเขมร หลวงสรวิชิต (หน) ออกไปรับทัพ ณ ทุ่งแสนแสบ รายงานข้อราชการต่างๆ แล้วเชิญกลับเข้ามายังพระนคร นับเป็นความชอบพิเศษ ต่อมาสมัยรัชกาลที่ 1 โปรดให้เป็นที่พระยาพิพัฒนโกษา และเจ้าพระยาพระคลังในที่สุด ท่านเป็นบรรพบุรุษต้นสกุลบุญ - หลง ท่านถึงแก่อนิจกรรมเมื่อ พ.ศ.2348 (สมพันธุ์ เลขะพันธุ์, 2530 : 30-31 )