 |
3. แทรกความรู้และความคิดทางวิปัสสนาธุระแสดงว่าขณะที่ทรงพระราชนิพนธ์นั้นทรงศึกษา หรือได้เริ่มปฏิบัติวิปัสสนาแล้ว เช่น ตอนฤาษีโคบุตรกล่าวกับทศกัณฐ์ว่า
พระมุนีจึงว่าเวรกรรม มันทำท่านท้าวยักษี
อันจะแก้ไขไปให้ดี ต่อกิจพิธีว่องไว
จึงจะสิ้นมลทิลบาปหยาบหยาม พยายามอนุโลมลามไหม้
ล้างลนอกุศลสถุลใจ เข้าไปในเชาวน์วิญญาณ
เป็นศีลสุทธิ์วุฑฒิ หิริโดยตะทังคะประหาร
คือบทแห่งโคตระภูญาณ ประหารโทษเป็นที่หนึ่งไป
คุณสมบัติพิเศษ อันนับเป็นเอกลักษณ์ ยากที่จะมีพบปรากฏในรามเกียรติ์ฉบับอื่นใด ก็คือรามเกียรติ์ฉบับพระราชนิพนธ์ของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีนั้น มีเนื้อหาและโวหารหลายตอน หนักไปทางธรรมและอิทธิปาฏิหาริย์ อันแสดงให้เห็นถึงพระปรีชาญาณ และพระราชอุปนิสัยของพระองค์ ที่ทรงฝักใฝ่ในทางธรรมตลอดจนการปฏิบัติสมถะวิปัสสนากรรมฐาน
เมื่อทรงกล่าวถึงบทของท้าวมาลีวราช ก็มักจะทรงใช้ถ้อยคำว่าพระทรงธรรมธิราชเป็นใหญ่ พระกอบกิจธรรมเป็นใหญ่ พระทรงทศธรรมรังษี พระทรงธรรมธิราชรังษี หรือพระทรงจตุศีลยักษา ฯลฯ บางตอนเข้าใจว่าน่าจะได้ทรงนำเอาพระราชกิจวัตรส่วนพระองค์มาสอดแทรกใส่ไว้ด้วย เช่น ตอนที่กล่าวถึงพระอิศวรเสด็จออกนั่งสนทนาธรรมกับพระฤาษี
วันหนึ่งจึงเธอออกนั่ง ยังบัลลังก์รัตน์รังษี
สนทนาไญยธรรมอันมี กับพระนารอทฤษีมีญาณ
พระราชนิพนธ์ตอนนี้ สะท้อนให้เห็นถึงพระราชอุปนิสัย ที่ทรงฝักใฝ่ในข้ออรรถข้อธรรม เมื่อยามว่างพระราชกิจ ก็จะทรงพอพระทัยมีธรรมสากัจฉากับพระราชาคณะ หรือแม้นักบวชในลัทธิศาสนาอื่นๆ เป็นต้นว่า กับพวกบาทหลวงฝรั่งเศส หรือพวกโต๊ะครูในศาสนาอิสลามดังปรากฏเรื่องราวเป็นหลักฐานอยู่ในจดหมายเหตุและพระราชพงศาวดารอยู่หลายตอน |
|
|