 |
ความมุ่งหมายในการแต่ง
อาจคะเนความมุ่งหมายในการทรงพระราชนิพนธ์รามเกียรติ์ได้ดังนี้
1. ทรงสืบราชประเพณีในการส่งเสริมวรรณกรรม โดยพระเจ้าแผ่นดินทรงพระราชนิพนธ์นำด้วยพระองค์เอง
2. มีพระราชประสงค์จะให้เป็นเครื่องบันเทิงใจราษฎร
3. ฟื้นฟูและรักษาเรื่องวรรณกรรมรามเกียรติ์อันเป็นวรรณกรรมสำคัญที่มีมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา
4. ทรงเลือกตอนที่เป็นคติธรรมเหมาะที่จะเป็นแนวคิดและสิ่งปลุกปลอบใจราษฎรในขณะนั้น อีกประการหนึ่งทรงแทรกเรื่องวิปัสสนาซึ่งพระองค์ทรงสนพระทัยอย่างยิ่งเข้าไว้ด้วย เท่ากับเป็นการแนะนำให้ราษฎรปฏิบัติเพื่อความสงบสุขทางใจ
5. ทรงแต่งเพื่อใช้เป็นบทละครของหลวง ซึ่งตามธรรมเนียมต้องเล่นเรื่องรามเกียรติ์ ตามพงศาวดารฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) ว่า สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรียกกองทัพไปตีเมืองนครศรี ธรรมราช พ.ศ.2312 ได้ตัวเจ้านครพร้อมด้วยละครผู้หญิงเข้ามาก่อตั้งละครหลวงขึ้น จึงต้องทรงพระราชนิพนธ์บทละครขึ้นใช้แสดง (กุหลาบ มัลลิกะมาศ , วรรณกรรมไทย : มหาวิทยาลัยรามคำแหง , ม.ป.ป. : 24-25)
บานแผนกในต้นฉบับสมุดไทยของวรรณกรรมเรื่องนี้กล่าวว่า สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีได้ทรงพระราชนิพนธ์เมื่อ จ.ศ.1132 (พ.ศ. 2313) เป็นกลอนบทละคร บอกชื่อเพลงร้อง และกระบวนท่ารำไว้ครบครันรวม 4 ตอน (4 เล่มสมุดไทย) ดังนี้
ตอน 1 ตอน พระมงกุฎ เรื่องนี้เป็นเรื่องตอนท้ายของรามเกียรติ์ ทรงแต่งเป็นพระราชนิพนธ์เล่มแรก เนื้อเรื่องกล่าวถึงพระมงกุฎและพระลบโอรสของพระรามกับนางสีดา อยู่ในป่ากับฤาษีวาลมีกิ เพราะนางสีดาถูกเนรเทศไป ฤาษีมอบศรวิเศษให้สองกุมาร สองกุมารลองศรเสียงกัมปนาทถึงกรุงอโยธยา พระรามปล่อยม้าอุปการแสดงอำนาจ พระมงกุฎ พระลบจับม้าไปขี่เล่น พระภรตจับพระมงกุฎไปถวายพระราม พระลบตามไปแก้ได้และพากันหนีไป จบลงตอนพระรามยกกองทัพไปตามจับสองกุมาร |
|
|