“ ประชาชนได้ถึงความวิโยค 2 ประการ คือ ญาติวิโยค 1 สมบัติวิโยค 1 ได้ปราศจากเมตตาจิตซึ่งกันและกัน อันภัยเกิดแต่ความหิว หากบีบคั้นหนักเข้าแล้ว ก็ไม่สามารถจะเอื้อเฟื้อต่อพระพุทธรูป แลพระธรรม พระสงฆ์ได้ เลี้ยงชีพของตนด้วยความคับแค้น ”

“ ฝ่ายภิกษุสงฆ์ทั้งหลาย เมื่อไม่ได้อาหารบิณฑบาตแต่ทายกแล้ว ก็เหนื่อยยากลำบากเข้า ไม่สามารถจะครองกาสาวพัสตร์ ได้ใช้ให้ศิษย์ไปขวนขวายหาอาหารเพื่อได้เลี้ยงท้อง ได้บ้างมิได้บ้าง ก็เหนื่อยหน่ายจากการบวช ด้วยความลำบากที่จะครองเพศเป็นสมณะ ได้พากันสึกออกหาเลี้ยงชีวิตตามสติกำลัง ”

“ บางพวกที่ยังรักษากาสาวพัสตร์อยู่ก็อุสาหะพยุงกายด้วยการแสวงหาน่าเวทนายิ่งนัก ได้ฉันบ้างไม่ได้ฉันบ้าง ก็มีรูปกายวิปริต สะพรั่งไปด้วยเกลียวหนังแลเส้นเอ็น ก็ไม่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ได้หมดความอาลัย รักษาพระพุทธรูปแลพระธรรมไว้ไม่ได้พากันสำเร็จอยู่ตามสถานอันสมควร ”

“ ฝ่ายพวกมิจฉาทิฏฐิทั้งหลาย ก็ทำอันตรายแก่พระพุทธรูป ”

“ พระธรรมวินัย ไตรปิฎก เมื่อขาดความรักษาเสียแล้ว ก็วินาศไปต่างๆ คือพวกมิจฉาทิฏฐิ ยื้อแย่งเอาผ้าห่อแลเชือกรัดไปบ้าง ตัวปลวกกัดกินยับเยินไปบ้าง แลพินาศสูญไปต่างๆ โดยที่พลัดตกลงดิน เปียกน้ำผุไปเสียบ้างก็มี ” รวมความว่า การที่เราต้องเสียกรุงศรีอยุธยาไปในครั้งนั้น ได้ส่งผลกระทบให้พระพุทธศาสนาต้องประสบกับภัยพิบัติอย่างมหาศาล จนเกือบจะเป็นการสุดวิสัยที่จะบูรณะให้คืนดีคงเดิมได้ (เสทื้อน ศุภโสภณ , 2527 : 63)

สุชาติ เผือกสกนธ์ , พลตำรวจตรี ( http://www.dabos.or.th/pr13.html (28/11/44)) ได้วิจารณ์ไว้ว่า “ สภาพจราจลซึ่งเกิดต่อเนื่องกันมาหลายปีตั้งแต่ก่อนกรุงศรีอยุธยาแตก มีผลร้ายต่อองค์การคณะสงฆ์แห่งราชอาณาจักรอย่างร้ายแรง นอกจากพระราชาคณะจะล้มหายตายสูญ หรือถูกจับเป็นเชลยของพม่าแล้ว การปกครองคณะสงฆ์ซึ่งอาศัยพระราชอำนาจเป็นเครื่องค้ำจุน ก็เสื่อมสลายตัวลงพร้อมกันไปกับการสลายตัวของราชอาณาจักรอยุธยา การเสื่อมโทรมทางเศรษฐกิจในขณะนั้นได้บีบบังคับทำให้เกิดความวิปริตผันผวน ของวัตรปฏิบัติของพระสงฆ์มากมายหลายทาง ”