ในการใช้ปืนใหญ่ โปรดให้ทหารฝึกยิงหมู่ พยายามยิงพร้อมกันหลายสิบกระบอก เพื่อทำลายหน่วยข้าศึก หรือที่มั่นข้าศึกโดยฉับพลัน ให้ได้ผลคล้ายทิ้งระเบิดขนาดหนักที่สุด ทั้งนี้ด้วยหวังจะไม่ให้ฝ่ายข้าศึกรู้ทางปืนก่อนที่จะถูกทำลายย่อยยับลงไป ปรากฏผลสำคัญในการรบคือยิงทำลายข้าศึกมีชัยชนะทุกครั้ง

ป้อมวิไชยประสิทธิ์
(ภาพจากหนังสือสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช)
4.3 ป้อมค่ายในเวลานั้นก็เป็นสิ่งจำเป็นในการทหารมาก โปรดให้เร่ง สร้างป้อม เพิ่มเติมขึ้นในที่สำคัญๆ หลายแห่ง

ส่วนป้อมวิไชเยนทร์เดิมที่สร้างในสมัยพระนารายณ์มหาราชนั้น ในสมัยสมเด็จพระเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช โปรดให้ปรับปรุงป้อมวิไชเยนทร์นี้ และพระราชทานนามใหม่ว่าป้อมวิไชยประสิทธิ์ในพ.ศ.2314 (สาระน่ารู้กรุงธนบุรี, 2543 : 33)


5. ในส่วน ราษฎร นั้น ทรง ปกครองดุจพ่อปกครองลูก โปรดที่จะเรียกพระองค์ว่า " พ่อ " กับทหารและราษฎร ในสมัยนั้นกฎหมายว่าด้วยการจุกช่องล้อมวงยังไม่ได้ตราขึ้น ทรงอนุญาตให้

ราษฎรได้เฝ้าตามสายทางโดยไม่มีพนักงานตำรวจแม่นปืนคอยยิงราษฎร ซึ่งแม้แต่ชาวต่างประเทศก็ยังชื่นชมในพระราชอัธยาศัยนี้ เช่น เมอซิเออร์เลอบองได้บรรยายไว้ในจดหมายถึงผู้อำนวยการคณะต่างประเทศว่า " บรรดาคนทั้งหลายเรียกพระเจ้าตากว่าพระเจ้าแผ่นดิน แต่พระเจ้าตากเองว่าเป็นแต่เพียงผู้รักษากรุงเท่านั้น พระเจ้าตากหาได้ทรงประพฤติเหมือนอย่างพระเจ้าแผ่นดินก่อนๆ ไม่ และในธรรมเนียมของพระเจ้าแผ่นดินฝ่ายทิศตะวันออก ที่ไม่เสด็จออกให้ราษฎรเห็นพระองค์ ด้วยกลัวจะเสื่อมเสียพระเกียรติยศนั้น พระเจ้าตากไม่ทรงเห็นชอบด้วยเลย พระเจ้าตากทรงพระปรีชาสามารถยิ่งกว่าคนธรรมดา เพราะฉะนั้นจึงไม่ทรงเกรงว่า ถ้าเสด็จออกให้ราษฎรพลเมืองเห็นพระองค์และถ้าจะทรงมีรับสั่งด้วยแล้ว จะทำให้เสียพระราชอำนาจลงอย่างใด เพราะพระองค์มีพระประสงค์จะทอดพระเนตรการทั้งปวงด้วยพระเนตรของพระองค์เอง และจะทรงฟังการทั้งหลายด้วยพระกรรณของพระองค์เองทั้งสิ้น ( กรมศิลปากร ประชุมพงศาวดารภาคที่ 39 : 63-64 เรียบเรียงในหนังสือสมเด็จพระเจ้าตากสินจอมบดินทร์มหาราช , สนั่น ศิลากรณ์, 2531 : 19)