พระบาง เป็นพระพุทธรูปสำคัญองค์หนึ่ง ซึ่งเคยประดิษฐานคู่กับพระแก้วมรกต เป็นที่รู้จักกันมาในประวัติศาสตร์ เป็นที่เคารพสักการะบูชาของพระพุทธศาสนิกชนทั่วไป

ประวัติความเป็นมา ในหนังสือตำนานพระพุทธรูปสำคัญ และหนังสือประชุมพงศาวดารภาคที่ 5 ได้กล่าวไว้ว่า เมื่อศักราช 418 (พ.ศ.1599) พระยาศรีจุลราชเจ้าเมืองอินทปัตตนคร (เขมร) ได้จัดให้ราชทูตไปขอพระบางจากพระเจ้าสุบินราชเจ้าเมืองลังกา และพระเจ้าสุบินราชก็ยินดีถวายพระบาง ให้แก่เจ้าเมืองอินทปัตตนครตามพระราชประสงค์ จึงโปรดฯ ให้อาราธนาอัญเชิญพระบางไปประดิษฐานในวิหารกลางเมือง

วัดหอพระแก้ว
(ภาพจากหนังสือ Laos)

ครั้นต่อมา พระยาฟ้างุ้ม ซึ่งเป็นบุตรเขยของพระยาศรีจุราช จึงได้อาราธนาพระบางไปประดิษฐานไว้ ณ เมืองศรีสัตนาคนหุต ล้านช้างร่มขาว (เมืองหลวงพระบาง) ครั้นขึ้นไปถึงเมือง เวียงคำ พระยาเวียงคำขออาราธนาอัญเชิญพระบาง ไปประดิษฐานเพื่อกระทำสักการะบูชาพระบางจึงได้ตกไปอยู่เมืองเวียงคำ ครั้นต่อมาถึง ศักราช 789 (พ.ศ.1970) เจ้าเมืองศรีสัตนาคนหุต ล้านช้างร่มขาว พระชัยจักรพรรดิผ่านแผ้ว โปรดฯ ให้อัญเชิญพระบางจากเวียงจันทน์บรรทุกเรือมา เรือได้ล่มที่แก่งจันทน์ ใต้เมืองเชียงคาน พระบางจึงได้จมน้ำหายไป อยู่มาไม่นานก็ได้เสด็จไปประดิษฐานอยู่ในวิหารเมืองเวียงจันทน์ตามเดิม ต่อมาเมื่อศักราช 838 (พ.ศ.2019) รัชกาลของพระยาล่าน้ำแสนไทยภูวนาถ ได้โปรดให้อัญเชิญพระบางจากเวียงคำ นำมาประดิษฐาน ณ วัดเชียงกลางเมืองศรีสัตนาคนหุต ล้านช้างร่มขาว (หลวงพระบาง) แล้วพระองค์ทรงโปรดให้สร้างพระวิหารวัดมโนรมย์ แล้วอาราธนาอัญเชิญพระบางไปประดิษฐานไว้ในพระวิหารแห่งวัดนั้น

ครั้นลุถึงรัชสมัยของพระยาวิชุลราชธิบดี ราวศักราช 921 (พ.ศ.2112) พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช เสด็จมาตั้งเมืองหลวงใหม่ที่เมืองเวียงจันทน์ทรงขนานพระนามเมืองว่า จันทบุรีศรีสัตนาคนหุต ล้านช้างร่มขาว สำหรับพระบาง พระแก้วมรกต พระแซกคำ ยังประดิษฐานอยู่ในวัดวิชุลราชศรัทธาราม เมืองเดิม ฉะนั้น จึงได้เปลี่ยนนามเป็น “ เมืองพระบางราชธานีศรีสัตนาคณหุตล้านช้างร่มขาว ”