 |
เมืองนครจำปาศักดิ์ตามเดิม ดังนั้นเมืองนครจำปาศักดิ์จึงกลายเป็นเมืองประเทศราชของไทยตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
ท้าวคำผง บุตรพระตา ได้สมรสกับนางตุ่ย บุตรีของเจ้าอุปราชธรรมเทโว (อนุชาของพระเจ้าองค์หลวงไชยกุมาร) พระเจ้าองค์หลวงไชยกุมารกับท้าวคำผง จึงมีความเกี่ยวดองในฐานะเป็นเขย และเป็นผู้ที่มีครอบครัวไพร่พลมาก จึงให้เป็นพระประทุมสุรราชนายกองใหญ่ควบคุมครอบครัวตัวเอง ขึ้นตรงต่อเมืองนครจำปาศักดิ์ โดยให้ตั้งมั่นอยู่ที่เวียงดอนกองนั้นเอง ตั้งแต่ในราวปี พ.ศ. 2322-2323 และอยู่ที่เดิมต่อมาจนสิ้นรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสิน ( http://www.nso.go.th/provweb/cwdweb/ubon/ubonll.htm : 28/11/44)
ตามหลักฐานของฝ่ายลาวกล่าวว่า กรุงศรีสัตนาคนหุต และกรุงล้านช้างได้กลายเป็นเมืองขึ้นของไทย ในปีพ.ศ. 2321
จึงกล่าวได้ว่าในสมัยกรุงธนบุรีไทยสามารถขยายอำนาจเข้าไปในอาณาจักรลาวได้ทั้ง 3 อาณาจักรและลาวมีฐานะเป็นประเทศราชของไทยจนสิ้นรัชกาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (ภารดี มหาขันธ์ , 2526 : 28)
หมายเหตุ พระแก้วมรกต สังเกตจากพุทธลักษณะน่าจะสันนิฐานได้ว่าเป็นฝีมือช่างไทยพายัพ สร้างตามแบบพระพุทธรูปลังกา สมัยเมื่อรับลัทธิลังกาวงศ์เข้ามาเป็นศาสนาประจำประเทศล้านนาแล้ว พระแก้วมรกตได้เคยตกไปอยู่ตามเมืองต่างๆ หลายเมืองได้แก่ลังกา (ศรีลังกาในปัจจุบัน)
เชียงราย เชียงใหม่ หลวงพระบาง และเวียงจันทน์ สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก (รัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์) ได้ทรงอัญเชิญพระแก้วมรกตจากเมืองเวียงจันทน์มากรุงธนบุรี และเมื่อเสด็จขึ้นครองราชย์แล้วได้ทรงสร้างวัดพระศรีรัตนศาสดารามขึ้น และอัญเชิญไปประดิษฐานไว้ในพระอุโบสถ เมื่อวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ.2377 และได้ทรงสร้างเครื่องทรงองค์พระแก้วมรกตฤดูร้อน
และฤดูฝนเป็นพุทธบูชา ต่อมาพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสร้างเครื่องทรงฤดูหนาวถวายเพื่อให้ครบ 3 ฤดู (ธนากิต, 2543 : 201-202) |
|
|