ฝ่ายเจ้าพระยาจักรียกกองทัพบกลงไปตีได้เมืองพระตะบอง เมืองโพธิสัตว์ และเมืองบริบูรณ์ตามลำดับ ยังแต่จะถึงเมืองบันทายเพชร สมเด็จพระนารายณ์ราชาเห็นว่าจะสู้รบไม่ไหวก็ทิ้งเมืองบันทายเพชรหนีไปญวน
สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีได้เสด็จยกทัพเรือไปด้วยพระองค์เอง (เป็นทัพหลวง) มีเรือรบ 200 ลำ เรือทะเล 100 ลำ ไพร่พล 15,000 คนเศษ ให้พระยาโกษาธิบดีเป็นกองหน้า เมื่อสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรียกทัพหลวงเสด็จถึงเมืองบันทายมาศ เมื่อวันพฤหัสบดี เดือน 12 ขึ้น 8 ค่ำ ทรงให้เกลี้ยกล่อมพระยาราชาเศรษฐี เจ้าเมืองบันทายมาศให้มาอ่อนน้อม แต่ไม่ได้ผล จึงมีรับสั่งให้ตีเมืองบันทายมาศ ได้เมืองเมื่อวันขึ้น 10 ค่ำ เดือน 12 พระยาราชาเศรษฐีหนีออกไปได้ ครั้งได้เมืองบันทายมาศแล้วจึงเสด็จยกกระบวนทัพเรือเข้าคลองขุดไปยังเมืองพนมเปญ |

|
สภาพชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเขมร
(ภาพจาก สยามไซเบอร์เอ็ด : ห้องสมุดภาพ : ประเทศกัมพูชา http://www.cybered.co.th/library/
combodia/level3.htm) |
หมายเหตุ ตอนหนึ่งของประวัติศาสตร์ช่วงนี้เองสันนิษฐานว่า กองทัพของพระเจ้ากรุงธนบุรีพักไพร่พลอยู่ที่วัดโยธานิมิตร (วัดโบสถ์) เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติแก่อดีตพระมหากษัตราธิราช ทางราชการได้ยกฐานะของวัดโยธานิมิตเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญตั้งแต่ พ.ศ. 2523 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน และเป็นพระอารามหลวงวัดเดียวในจังหวัดตราด นัยว่าเมืองตราดใช้อุโบสถหลังเก่าของวัดนี้เป็นที่ถือน้ำพิพัฒน์สัตยาของบรรดาข้าราชการในอดีต และมีการขึ้นบัญชีพระอุโบสถเก่าเป็นโบราณสถานด้วย (จากหนังสือจังหวัดตราด : 2192-2193) |