พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่นิสิตและนักศึกษาวิทยาลัยวิชาการศึกษาเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ.2505 ความตอนหนึ่งว่า
คนเรานั้นจะว่าไป ก็เป็นสัตว์ชนิดหนึ่งในบรรดาสัตว์ทั้งหลาย แต่มีการแตกต่างกันหลายประการ ประการที่สำคัญที่สุดก็คือ ความรู้ สัตว์อื่นทั้งหลายที่เกิดมาได้รับการฝึกสอนจากพ่อแม่ ก็เพียงให้รู้ถึงวิธีดำเนินความเป็นอยู่อย่างธรรมดาของสัตว์หรืออาศัยสัญชาตญาณที่มีอยู่ในตัวนั้น ส่วนคนนั้นนอกจากความรู้ที่ได้รับมาตามธรรมชาติแล้ว ยังมีสติปัญญาที่จะค้นคว้าหาความรู้สืบต่อกันมาแต่บรรพบุรุษ มีตำรับตำราเป็นอันมาก ซึ่งได้เขียนไว้ให้คนชั้นหลังได้เรียนรู้ ถึงวิชาการและขนบธรรมเนียมประเพณีอันชอบด้วยศีลธรรม ปัญญานี้แหละเป็นสิ่งสำคัญที่คนจะต้องนำไปใช้ในทางที่ดีที่ชอบประกอบกับตำรา และขนบธรรมเนียมประเพณีอันมีมาแต่โบราณกาลนั้น แต่ถ้านำเอาปัญญาไปใช้ในทางที่มิชอบ ปราศจากศีลธรรม คนก็จะเลวกว่าสัตว์
พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่นิสิตและนักศึกษาวิทยาลัยวิชาการศึกษาเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ.2503 ความตอนหนึ่งว่า
... ผู้ที่เป็นอาจารย์นั้น ใช่ว่าจะมีแต่ความรู้ในทางวิชาการและในทางการสอนเท่านั้นก็หาไม่ จะต้องรู้จักอบรมเด็กทั้งในด้านศีลธรรมจรรยาและวัฒนธรรม รวมทั้งให้มีความสำนึกรับผิดชอบในหน้าที่และในฐานะที่เป็นพลเมืองดีของชาติต่อไปข้างหน้า การให้ความรู้หรือที่เรียกว่าการสอนนั้นต่างกับการอบรม การสอนคือการให้ความรู้แก่ผู้เรียน ส่วนการอบรมเป็นการฝึกจิตใจของผู้เรียนให้ซึมซาบจนติดเป็นนิสัย ขอให้ท่านทั้งหลาย จงอย่าสอนแต่อย่างเดียว ให้อบรมให้ได้รับความรู้ดังกล่าวมาแล้ว
ศีลเป็นข้อแรกของไตรสิกขา ได้แก่ ศีล สมาธิ ปัญญา ผู้มีศีลเท่านั้นจึงจะมีสมาธิ และผู้มีสมาธิเท่านั้นจึงจะเกิดปัญญา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเราทรงถึงพร้อมด้วยศีล ทรงมีสมาธิแน่วแน่ในการทรงปฏิบัติพระราชภารกิจ ทรงมีพระปัญญาสว่างไสวในการคิดพิจารณาถึงปัญหาและทรงแก้ปัญหา ศีลเป็นเครื่องยังกายวาจาใจให้สงบ ผู้สงบแล้วย่อมเบิกบาน มีปรีชาชาญในทุกๆ เรื่อง ซึ่งเราชาวไทยทั้งหลายจะพึงสังเกตเห็นได้จากพระราชจริยาวัตรของพระองค์
|