โดยจะพระราชทานเงินค่าเดินทางอย่างเพียงพอ ส่วนค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลนั้น คนไข้ก็ไม่จำเป็นต้องเสียแม้แต่น้อย ในการนี้จะมีเจ้าหน้าที่บันทึกประวัติและอาการคนไข้ เพื่อเก็บรักษาไว้เป็นข้อมูลในการตามผลการรักษาพยาบาลนั้นด้วย คือ ไม่ได้ทรงทอดทิ้งเลย มีการติดตามรักษาจนผู้ป่วยนั้นหายจากการเจ็บป่วยดังกล่าว หากมีการเสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมวัด ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางของชุมชนในชนบทของไทยมาทุกสมัย ก็จะพระราชทานกล่องยารักษาโรคแก่วัดเพื่อพระภิกษุใช้เมื่อเกิดอาพาธ และเพื่อช่วยเหลือแจกจ่ายราษฎรผู้ป่วยเจ็บ ในหมู่บ้านนั้นๆ

พระราชทานสิ่งของจำเป็นต่างๆ แก่ราษฎร

เช่นเดียวกันกับเมื่อเสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมหน่วยทหาร ตำรวจ อาสาสมัครในถิ่นทุรกันดาร ก็ได้โปรดเกล้าฯ พระราชทานสิ่งของจำเป็นต่างๆ รวมทั้งยารักษาโรค สำหรับใช้ในหมู่บ้าน รวมทั้งเผื่อแผ่แก่ราษฎรในท้องที่ด้วยตามความจำเป็น อันจะทำให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และประชาชนในพื้นที่ที่ได้มีความเข้าใจอันดีต่อกัน รู้จักช่วยเหลือซึ่งกันและกัน …”

ดังนั้นในการเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎร และทรงพบว่าประชาชนที่อยู่ห่างไกลความเจริญ มีปัญหาด้านการสาธารณสุข เนื่องจากการขาดการรักษาพยาบาลที่ดี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ขึ้น ดังรายละเอียดที่ปรากฏในหนังสือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯกับงานพัฒนา ( คณะกรรมการพิเศษ เพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) (2531 : 161-165) ดังนี้