เมื่อวันศุกร์ที่ 14 เมษายน พ.ศ.2538 เวลา 20.00 น. โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ได้ถ่ายทอดการพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ดร.เชาว์ ณ ศีลวันต์ องคมนตรีสัมภาษณ์ และเผยแพร่ภาพบันทึกส่วนพระองค์เกี่ยวกับสุขภาพ ดังต่อไปนี้
- เสด็จ ณ ศาลาดุสิดาลัย เพื่อทรงออกกำลังพระวรกายตามปกติ
- แพทย์ประจำพระองค์ถวายการตรวจความดันพระโลหิต ซึ่งกระทำทั้งก่อนและหลังการออกกำลังพระวรกาย
- ทรงเริ่มการออกกำลังพระวรกายด้วยการทรงพระดำเนิน เริ่มจากทรงพระดำเนินอย่างช้า เพื่อทรงเตรียมพระวรกายก่อน โดยมีสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ฯ อัครราชกุมารี ร่วมเสด็จพระราชดำเนิน และยังมีข้าราชบริพารตามเสด็จ
- จากนั้นทรงเพิ่มความเร็วในการทรงพระดำเนิน ทรงวน 7 รอบ ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ใช้เวลา 11 ถึง 18 วินาที จากนั้นเสด็จประทับพระที่นั่งให้แพทย์ถวายการตรวจความดันพระโลหิต
- พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้สัมภาษณ์ ซักถามถึงพระอาการประชวร ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ตอบข้อซักถามอย่างละเอียด ตอนหนึ่งของการอธิบายพระองค์ตรัสว่า “ เลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่พอ ต้องอธิบายว่าหัวใจเป็นอย่างไร ”
- จากนั้นทรงให้นำไวท์บอร์ดมาเขียนภาพหัวใจเพื่ออธิบายระบบการสูบฉีดเลือดพระองค์ทรงอธิบายว่า “ ... หัวใจอยู่ข้างซ้าย หัวใจมีเครื่องปั๊มเป็นเครื่องสูบ เครื่องสูบสีแดงเป็นส่วนที่สูบเลือดไปเลี้ยงร่างกาย และส่วนที่รับเลือดที่ฟอกจากปอดมีออกซิเจนแล้ว ... ”
ทรงบรรยายถึงพระอาการประชวรของพระองค์ โดยทรงวาดรูปประกอบการอธิบายถึงการไหลเวียน ของพระโลหิตว่า การที่พระองค์ ทรงพระประชวรนั้น
” ... เป็นเพราะกล้ามเนื้อของหัวใจจะต้องแบ่งเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย แต่เส้นเลือดที่จะไปเลี้ยงสมองนั้นไม่พอ เวลาออกกำลัง จึงทำให้ส่วนนี้ของร่างกายของหัวใจขาดเลือด ซึ่งหากมีอาการเช่นนี้ประมาณครึ่งชั่วโมงร่างกายจะเย็น เหงื่อออก หน้าซีด ซึ่งจะต้องได้รับการรักษา ... ”
และมีพระราชดำรัส พระราชทานความรู้เรื่องการออกกำลังกายว่า
“… เมื่อวานนี้และวันนี้การออกกำลังกายเขาเรียก เอ็กเซอร์ไซด์เทสต์ ( Exercise Test ) การทดสอบออกกำลังบนเครื่องเดิน ตอนแรกเดินช้าและตอนหลังเร็วขึ้น และทำเสมือนปีนเขา ทำให้ต้องออกแรงมากขึ้น ครั้งละ 12 นาที วันนี้เดินเกือบ 12 นาที ใกล้เคียงกัน เมื่อวานชีพจรขึ้นไปถึง 112 และความดันถึง 180 หมายความว่า หากเดินเร็วกว่านี้นิดหน่อย ความดันเมื่อกี้ 170 ก็จะถึง 180 ชีพจรเท่ากับ 90 ก็จะเท่ากับ 100 และไม่รู้สึกเจ็บและอึดอัดอย่างที่เคยเป็น ... ”