ด้านที่ 1 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงพระราชดำริว่าสมุนไพรอันเกิด ในพระราชอาณาเขต มีสรรพคุณเป็นยารักษาโรคอย่างวิเศษมาแต่โบราณกาลนั้นนับวันจะลดน้อยถอยลงตามลำดับ เพราะขาดผู้อุปถัมภ์บำรุง ศึกษาให้ชัดเจน มิได้เป็นกาลต่อเนื่องแต่กาลก่อน จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ใช้พื้นที่เขาหินซ้อน อำเภอพนมสารคามจังหวัดฉะเชิงเทราจัดทำเป็นโครงการสวนป่าสมุนไพร

ด้านที่ 2 วันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ.2525 ตรงกับวันพุธขึ้น 7 ค่ำ เดือน 10 ปีจอ ร.ศ.201 ได้ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ทรงวางศิลาฤกษ์ สร้างศิลาจารึก ณ โครงการสวนป่าสมุนไพร ศูนย์การศึกษาพัฒนาเขาหินซ้อนแห่งนี้

ด้านที่ 3 เริ่มดำเนินการก่อสร้างโดยใช้เงินงบประมาณพัฒนาจังหวัด จำนวน 1,000,000 บาท เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ.2535 ตรงกับวันจันทร์ แรม 5 ค่ำ เดือน 8 ปีมะแม ร.ศ.210 ขอให้สวนป่าสมุนไพรแห่งนี้ จงเจริญก้าวหน้า และยังประโยชน์สงเคราะห์เกื้อกูลแก่ประชาชนคนไทย โดยทั่วหน้าสืบไปชั่วกาลนานเทอญ

ด้านที่ 4 ทรงตั้งพระราชหฤทัยให้เป็นศูนย์กลางการสมุนไพร เพื่อการศึกษาขั้นพื้นฐาน และการวิจัยทางวิชาการอันเป็นแหล่งทัศนศึกษาและเผยแพร่ ให้ความรู้การใช้สมุนไพรเป็นอาหาร บำบัดโรค บำรุงรักษาสุขภาพอันจะช่วยแบ่งเบาภาระทางเศรษฐกิจในครัวเรือนแก่พสกนิกรทั่วไป

นอกจากนี้ ยังมีข้อความที่ติดประกาศไว้ ณ สำนักงานศูนย์การศึกษานี้เกี่ยวกับเรื่องของสมุนไพร ซึ่งแสดงถึงแนวคิดและวัตถุประสงค์ในการสร้างสวนป่าสมุนไพรไว้อย่างชัดเจนดังนี้

“ ปัจจุบันมีผู้ให้ความสนใจในการใช้สมุนไพรมากขึ้น กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายส่งเสริม การใช้ประโยชน์ จากสมุนไพรในงานสาธารณสุขมูลฐาน มหาวิทยาลัยและสถาบันต่างๆ ได้ทำการวิจัยพืชสมุนไพรอย่างต่อเนื่อง

และประชาชนทั่วไปก็ได้หันมาใช้ยาสมุนไพร และปลูกพืชสมุนไพรกันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากยาสมุนไพร เป็นทรัพยากรที่หาได้ในท้องถิ่นปลอดภัยกว่าการใช้ยาแผนปัจจุบัน สามารถส่งเสริมให้ผลิตเป็นอุตสาหกรรม ในครัวเรือนและธุรกิจชุมชนได้ อันจะทำให้เกิดการพึ่งตนเองด้านสุขภาพอนามัยของคนในชีวิต ลดการนำเข้า ผลิตภัณฑ์ยาจากต่างประเทศ และการปลูกพืชสมุนไพรยังมีส่วนช่วยให้สิ่งแวดล้อมของชุมชนดีขึ้นอีกด้วย ”