ปัญหาทางด้านสาธารณสุขนี้มิได้มีเฉพาะในชนบทเท่านั้น แม้แต่ในกรุงเทพมหานครซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศไทยก็มีปัญหาเช่นกัน พลตำรวจตรีสุชาติ เผือกสกนธ์ได้เขียนไว้ในบทความเกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงกอปรด้วยพระเมตตาบารมี (html://www.dabos.or.th/ro17.html : 28/11/44) ดังนี้
ผมได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมกิจการของคลินิกแห่งหนึ่งชื่อว่าคลีนิคศูนย์แพทย์พัฒนา ตั้งอยู่ที่ถนนพระรามเก้า คลินิกแห่งนี้ได้เปิดให้บริการแก่ประชาชนมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2531 แต่ยังไม่เป็นที่รู้จักกันแพร่หลายนัก
เมื่อปี พ.ศ.2531 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงห่วงใยในปัญหาน้ำเสีย ซึ่งนับวันจะเกิดเป็นมลภาวะเพิ่มมากขึ้น ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ดังแต่ก่อนในคลองแสนแสบ คลองลาดพร้าว และคลองพลับพลา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงได้ทรงมีแนวกระแสพระราชดำริที่จะแก้ไขปัญหาน้ำเสียดังกล่าว ด้วยการขุดบ่อขึ้น แล้วนำเอาน้ำเน่าออกจากคลองลาดพร้าวมาบำบัดให้เป็นน้ำดี
อนึ่ง เมื่อได้ทรงทราบถึงปัญหาความเดือดร้อนเกี่ยวกับสุขภาพของชาวบ้านที่พำนักอาศัยอยู่ในบริเวณนี้ เนื่องจากไม่สามารถเดินทางไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลหรือคลินิกเมื่อเกิดการเจ็บป่วยได้ในเวลาอันสมควร เพราะเส้นทางคมนาคมไม่สะดวก จึงได้ทรงมีกระแสพระราชดำริที่จะให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทุกสาขา ที่มาปฏิบัติหน้าที่ถวายงานสนองพระเดชพระคุณ อยู่ในพระตำหนักจิตรลดารโหฐานและมีเวลาว่างจากเวรยาม ออกไปช่วยดูแลให้การรักษาพยาบาลแก่ราษฎรที่พักอาศัยอยู่ในบริเวณคลองลาดพร้าว คลองพลับพลา และชุมชนใกล้เคียงอีกส่วนหนึ่งด้วย จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ก่อสร้างคลินิกขึ้นในที่ดินบริเวณนี้ โดยใช้พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ทั้งสิ้นเป็นทุนในการก่อสร้างอาคาร และจัดหาเครื่องมืออุปกรณ์การแพทย์ที่ทันสมัยที่สุด และพระราชทานนามคลินิกนี้ว่า ศูนย์แพทย์พัฒนา เปิดให้บริการแก่ประชาชนตั้งแต่ปี พ.ศ.2533 เป็นต้นมา
ศูนย์แพทย์พัฒนานี้มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแพทย์ประจำพระองค์ในสาขาต่างๆ หลายสาขา มีชื่อเรียกตามภาษาชาวบ้านว่าตรวจโรคทั่วไป ผ่าตัดโรคเกี่ยวกับตา หู และจมูก ทำคลอด โรคเด็ก ทำฟัน และกายภาพบำบัดเป็นต้น
|