พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ.2493 แต่ยังมิได้ทรงสร้างพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ประจำรัชกาล ด้วยทรงมีพระราชกรณียกิจเสด็จพระราชดำเนินไปยังต่างประเทศสืบเนื่องกันเป็นเวลานาน และยังไม่ทรงมีโอกาสอันควร จนกระทั่งปี พ.ศ.2506 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระชัยวัฒน์ประจำรัชกาลตามโบราณราชประเพณี โดยโปรดเกล้าฯ ให้นายพิมาน มูลประมุข เป็นผู้ปั้นหุ่นพระพุทธรูป และโปรดเกล้าฯ ให้จัดพระราชพิธีหล่อพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ประจำรัชกาลปัจจุบัน ในวันพฤหัสบดีที่ 31 ตุลาคม พ.ศ.2506 ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินเข้าสู่อุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทรงศีล แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปยังมณฑลพิธีหน้าพระอุโบสถได้เวลาพระฤกษ์7 นาฬิกา 12 นาที ถึง 7 นาฬิกา 22 นาที โหรลั่นฆ้องชัย ทรงเททองและเงิน หล่อพระพุทธปฏิมาประจำรัชกาล พระสงฆ์ 30 รูป ในพระอุโบสถ มีสมเด็จพระสังฆราชเป็นประธานเจริญชัยมงคลคาถา ชาวประโคม ประโคมสังข์แตร บัณเฑาะว์ และดุริยางค์ ทหารปืนใหญ่ (จากกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ จำนวน 1 กองร้อย โดยมีร้อยโท ชูชาติ หิรัญรักษ์ เป็นผู้บังคับกองร้อย) ยิงปืนพระฤกษ์ มหาชัย มหาจักร มหาปราบยุค 19 นัด พระครูวามเทพมุนี ถวายน้ำสังข์ที่พระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ ทรงประเคนภัตตาหาร พระสงฆ์ 30 รูป รับพระราชทานฉัน สมเด็จพระราชาคณะดับเทียนชัย พระสงฆ์ทั้งนั้นเจริญคาถาดับเทียนชัย
ต่อมาเมื่อการแต่งพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ได้เสร็จบริบูรณ์แล้ว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ประกอบการพระราชพิธีฉลองสมโภชพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ที่ได้ทรงหล่อไว้ ผนวกอยู่ในการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา พ.ศ.2506 ซึ่งเป็นมงคลสมัยเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 3 รอบ อีกด้วย
พระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์รัชกาลปัจจุบัน เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยประทับขัดสมาธิเพชร มีฉัตรปรุ 5 ชั้น ปักดิ้น หน้าตักกว้าง 7 นิ้ว สูงจากทับเกษตรถึงยอดพระรัศมี 9 นิ้ว ในหัตถ์ซ้ายมีพัดแฉกหล่อด้วยเงินปักอยู่ที่ฐานมีคำจารึกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ดังนี้
จารึกด้านหน้า ความว่า
มานสํ วีริยํ ขฺนติ
ภูมิ เว อิทฺธิยา พลํ
อิทฺธิงคโต ส รญฺเชติ
ปฺณฑิโต ชยาฒฺทโน
|